พระสนิทวงศ์มอบตัวกองปราบ-ตร.เข้มไร้เงาญาติโยมให้กำลังใจ

พระสนิทวงศ์มอบตัวกองปราบ-ตร.เข้มไร้เงาญาติโยมให้กำลังใจ

รับชม 48 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
newsplusth
4,971 วิดีโอ
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปรายปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับของศาลอาญา ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น /หมิ่ประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อเวลา 9 นาฬิกา 30 นาทีที่ผ่านมา โดยมีพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย โดยมีรายงานข่าวว่า ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา มีการซักถามพระสนิทวงศ์ อย่างน้อยใน 2 ประเด็น คือ เรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เช่นว่ามีบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัยหรือไม่ และประเด็นความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของวัด ที่ได้รับคำยืนยันว่ามีเพียง 197 ไร่ ส่วนอีกกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ตามหลังการแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่าเป็นความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคง และหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น ตามกระบวนการจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาพิจารณาฝากขังตัวชั่วคราวต่อไปทันที สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ ยังมีพระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 จังหวัดปทุมธานี เดินทางมารอที่กองปราบปรามด้วย และสำหรับพระสนิทวงศ์ เป็น 1 ใน 14 คน ที่ถูกออกหมายเรียก โดยใช้อำนาจมาตรา 44 ตามคำสั่ง คสช. และในเวลา 11 นาฬิกา พลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 จะเดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อชี้แจงข้อมูลการดำเนินคดีพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย ที่มีอยู่กว่า 300 คดี เพื่อนำไปประกอบการประชุมกับมหาเถระสมาคมในวันพรุ่งนี้ สำหรับบรรยากาศที่กองบังคับการปราบปราม มีการคัดกรองบุคคลที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยจากชุดควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และกองบังคับการปราบปราม ดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์จากผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้จากการสังเกตการณ์ไม่พบคณะศิษยานุศิษย์เดินทางมาให้กำลังใจแต่อย่างใด พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวหลังสอบปากคำพระสนิทวงศ์ ว่า ภายหลังพระสนิทวงศ์เข้ามอบตัว ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยเบื้องต้น ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริง และพรสนิทวงศ์ได้รับสารภาพบางส่วนแล้ว อาทิ ยอมรับว่าตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัด ไม่มีในพระพุทธศาสนา รวมถึงพระสนิทวงศ์ ยืนยืนว่า ที่ดินของวัดมีเพียง 197 ไร่ ส่วนที่ดินอีก 2000 ไร่ อยู่ในการครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย และจนถึงขณะนี้ พระสนิทวงศ์ยังไม่ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา แต่ต้องรอการสอบสวนทั้งหมดของพนักงานสอบสวนอีกครั้ง สำหรับขั้นตอน โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น จะเชิญพระครูวิจิต อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 ร่วมพิจารณา ว่า พฤติกรรมของพระสนิทวงศ์เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.สงฆ์หรือไม่ หากพบความผิดจะให้สละสมณเพศทันที จากนั้นจะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และหลังจากนั้น ตำรวจสภ.คลอง 5 จะดำเนินการอายัดตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ไม่ไปรายงานตัว ตามหมายเรียก พลตำรวจตรีสุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการตำรวจปราบปราม เปิดเผยหลังสอบปากคำพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายนานประมาน 3 ชั่วโมง ว่า เบื้องต้นพระสนิทวงศ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คุมตัวไปขออนุญาตศาลอาญาฝากขัง หลังจากนี้เป็นอำนาจศาลอาญาว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ หากศาลอนุญาตให้ประกันตัว จะอายัดตัวไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสภ.คลองห้า เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานฝ่าฝืนคำสั่ง ม.44 ของคสช. แต่หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทางพระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 จังหวัดปทุมธานี และตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการสึกพระสนิทวงศ์ เนื่องจากจะเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติสงฆ์ ตามมาตรา 29 พระภิกษุรูปใดถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่เห็นสมควรให้ปล่อยชั่วคราว และเจ้าอาวาสแห่งวัดที่พระภิกษุรูปนั้นสังกัดไม่รับมอบตัวไว้ควบคุม หรือพนักงานสอบสวนไม่เห็นสมควรให้เจ้าอาวาสรับตัวไปควบคุมหรือพระภิกษุรูปนั้นมิได้สังกัดในวัดใดวัดหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศ ก่อนจะคุมตัวไปยังเรือนจำต่อไป
แสดงเพิ่ม