วันที่ 10 มิ.ย. พล.ต.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 สั่งการให้ พ.ท.ชายแดน เกาะแก้ว ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 111 ดำเนินการตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมพระสงฆ์ 2 รูปภายในวัดแห่งหนึ่ง ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังได้รับรายงานจากการข่าวว่ามีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาบ้าภายในกุฏิ และหลังสืบทราบจนแน่ใจแล้วจึงได้สั่งการให้ ร.อ.อนุกูล วงษ์แม่น้อย หัวหน้าชุดรักษาความสงบเรียบร้อย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมด้วย นายภราดา เมืองนารถ ปลัดฝ่ายความมั่งคงอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา บุกเข้าตรวจสอบพระทั้ง 2 รูป
ซึ่งปะกอบด้วย พระครูวินัยธรฉลาม อาษาภักดิ์ และ พระเทวัน กิติวิริยะชัย กำลังจำวัดอยู่ภายในกุฏิ จึงขอตรวจหาสารเสพติด และตรวจภายในกุฏิ ปรากฏว่าพบอุปกรณ์การเสพทั้งยาบ้าและยาไอซ์ พร้อมกับยาบ้าอีกจำนวน 2 เม็ดครึ่ง จึงทำการตรวจยึดไว้ โดยพระทั้ง 2 รูปให้การรับสารภาพว่าเสพจริง โดยรับยาบ้ามาจากนายกิตตินันท์ สัณหภักดี อายุ 25 ปี ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีบ้านพักอาศัยใกล้กับวัด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บุกไปยังบ้านของนายกิตตินันท์ โดยพบกับแม่ของนายกิตตินันท์ อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านจึงเข้าไปทำกรสอบถามหา
โดยแม่ระบุว่า ลูกชายอยู่ภายในห้องนอน แต่ทุกคนได้พยายามเรียกให้นายกิตตินันท์ออกมาจากห้องเพื่อมาคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีเสียงตอบ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการบุกเข้าไปภายในห้อง พบนายกิตตินันท์เข้าไปซุกตัวอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นนายกิตตินันท์ได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขายยาบ้าให้กับพระจริง และนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่มีการเก็บซ้อนยาบ้าไว้อีกจำนวนหนึ่งภายในตลับปลั๊กไฟของห้องนอน และจากการตรวจค้นภายในห้องยังพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าและยาไอซ์อีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมายังค่ายทหารเพื่อทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบว่านายกิตตินันท์ได้รับยาบ้ามาจากนายแปะ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลจริง ครั้งละ 50 เม็ด ในราคาเม็ดละ 100 บาท โดยนำมาขายต่อให้ลูกค้าในราคาเม็ดละ 150-200 บาท ซึ่งทำมาแล้วเป็นเวลานาน จนมาถูกจับได้ในครั้งนี้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งตัวนายกิตตินันท์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนพระทั้ง 2 รูปที่ได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา และเจ้าอาวาส เพื่อดำเนินการสึกจากความเป็นพระและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
แสดงเพิ่ม
