ศาลจำคุก1ปี น็อตกราบรถต่อยหนุ่มขี่จยย.ชนมินิ รออาญา2ปี,บริการสังคม

ศาลจำคุก1ปี น็อตกราบรถต่อยหนุ่มขี่จยย.ชนมินิ รออาญา2ปี,บริการสังคม

รับชม 396 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
newsplusth
4,971 วิดีโอ
ศาลอ่านพิพากษาคดีนี้อัยการยื่นฟ้องนายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล อดีตพิธีกรรายการชื่อดัง และนายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล เพื่อนของนายอัครณัฐ ร่วมกันทำร้ายนายกิตติศักดิ์หรือบอย สิงห์โต พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหายคู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน รถยนต์ยี่ห้อ “ มินิ” ของนายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 โดยใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหัก และกระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้งสองข้างได้รับอันตรายสาหัส เและยังบังคับให้นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหายกราบรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งคดีนี้ศาลได้ไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่งสำเร็จเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมานายอัครณัฐ รับสารภาพ ยอมชดใช้ให้นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหาย 1 แสน 8 หมื่นบาท ทำดั้งจมูกโดยในวันนี้นายอัครณัฐ เดินทางมาพร้อมครอบครัวและไม่ให้สัมภาษณ์ก่อนฟังคำพิพากษาโดบระบุจะเปิดเผยรายละเอียดหลังฟังคำพิพากษาแล้วเสร็จ ภายหลังนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความโจทก์ร่วม เปิดเผยว่าศาลพิพากษาจำคุก นายอัครณัฐ กับเพื่อนคนละ 2 ปี ซึ่งเป็นโทษหนักสุดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี และจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนโทษจึงให้รอลงอาญา 2 ปี โดยให้ทำงานบริการสังคมด้วย คนละ 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานตัวทุกๆ 3 เดือน จำนวน 4 ครั้ง ซึ่งโจทก์ร่วมจะไม่อุทธรณ์คดีเนื่องจากมีการเยียวยาเป็นเงิน 1 แสน 8 หมื่นบาท แล้ว ส่วนคดีที่นายอัครณัฐ แจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ฐานขับรถหลบหนีหลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้สั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการศาลแขวงพนะนครใต้ แต่นายกิตติศักดิ์ ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากเสียค่าปรับไปแล้ว จำนวน 400บาท และอัยการยังไม่มีคำสั่งทางคดี ภายหลังนายอัครณัฐ ฟังคำพิพากษาได้เปิดเผยว่าศาลได้พิพากษาลงโทษ แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และขณะนี้ยังไม่ได้วางแนวทางเกี่ยวกับการบริการสังคม แต่ส่วนตัวอยากสอนหนังสือเด็กและเยาวชน เกี่ยวกับการใช้สติ อารมณ์ และการใช้ชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุตัวเองก็มีสติมากขึ้น แต่ไม่ค่อยขับรถจะให้คนอื่นขับมากกว่า พร้อมฝากเตือนทุกคนให้ใจเย็นๆ ถ้าใครเป็นคนผิดก็รับผิดชอบ และตอนนี้ก็เริ่มมีงานติดต่อมาบ้าง แต่ก็ให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติและพร้อมทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนสภาพจิตใจตัวเองขณะนี้ก็ดีขึ้นมาก ขอขอบคุณศาล และสื่อมวลชน ด้วย
แสดงเพิ่ม