ทุบโต๊ะข่าว - คนแบบนี้บวชใครจะกล้าใส่บาตร! เจ้าคณะถาม-เจ้าตัวย้อนเจ็บบวชให้แค่คนรวยหรือ

ทุบโต๊ะข่าว - คนแบบนี้บวชใครจะกล้าใส่บาตร! เจ้าคณะถาม-เจ้าตัวย้อนเจ็บบวชให้แค่คนรวยหรือ

รับชม 1,321 ครั้ง|
5
ไม่ชอบ
แชร์
keepvidvideo1
6,334 วิดีโอ
กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมออนไลน์ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อ.ท็อป ป.หางยาว ได้มีการโพสต์เรื่องราวและภาพของตัวเอง ที่หวังจะได้บวชเข้าศึกษาพระธรรม แต่กลับกลายเป็นว่า หลังจากที่เจ้าคณะอำเภอปทุมธานีได้เห็นใบหน้าของหนุ่มคนนี้แล้ว ถึงกับออกปากปฏิเสธและพูดว่า “สักลายที่หน้าบวชไม่ได้” สร้างความสงสัยให้กับหนุ่มคนดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ (28 สิงหาคม 2560) นายทศพร ตะเพียนทอง หรือคุณท็อป หนุ่มที่ไม่ได้บวชเป็นพระ เปิดเผยว่า จุดประสงค์ที่ตนตัดสินใจบวชที่วัดทวีการะอนันต์ เพราะเป็นวัดใกล้บ้านแล้วตนก็ตัดสินใจบวชเพราะต้องการแก้บน ซึ่งตนเคยบนไว้ว่าหากถูกพิพากษาให้ติดคุกด้วยเลขตัวเดียวจะบวชซึ่งผลออกมาคือตนติดคุก 4 ปี หลังจากออกจากเรือนจำตนจึงตัดสินใจบวช ซึ่งตนได้มีโอกาสพูดคุยกับพระเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ว่าจะบวช โดยมีการตกลงว่าจะเข้ามาบวชวันที่ 26 สิงหาคม ทางเจ้าอาวาสก็ทราบมาโดยตลอด และทราบว่าตนมีรอยสักแต่ก็ไม่ได้สั่งห้ามบวช แต่เมื่อถึงวันที่ 26 สิงหาคม ตนพร้อมญาติและเพื่อนก็ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อทำพิธีบวช แต่ทางเจ้าอาวาสบอกว่า ต้องให้พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงเป็นผู้อุปัชฌาย์ให้เท่านั้น เนื่องจากผู้ที่มีรอยสักต้องให้พระผู้ใหญ่เป็นผู้พิจารณา แต่เมื่อเจ้าตัวถือผ้าไตรเข้าไปหาทางท่านคณะจังหวัดปทุมธานี เมื่อท่านเห็นรอยสักที่ใบหน้าของตนก็ส่ายหัว พร้อมพูดจาด้วยอารมณ์ว่า “ มึงสักลายที่หน้าบวชไม่ได้ มึงไปสักมาทำไมเยอะแยะ ถ้ากูให้มึงบวชกูโดนด่าแน่” แต่ตนก็พยายามอธิบายว่าแค่จะบวชเณร แต่ทางเจ้าคณะกลับไม่ฟังและสะบัดหน้าหนี ภายหลังตนก็ได้ขับรถแล้วเบิ้ลเครื่องใส่หน้าวัดด้วยอารมณ์โกรธ นายทศพร ยอมรับว่าตนโมโห เพราะหากไม่ให้บวชทำไมถึงไม่บอกแต่แรก ส่วนที่บอกว่าสักหน้าแล้วบวชไม่ได้นั้น “ตนก็สงสัยว่าทำไมคนอื่นสักแล้วบวชได้ เพราะผมไม่ดัง ไม่รวยหรือ ถึงบวชไม่ได้” คือตนยอมรับว่าคนเรามีทั้งดีและไม่ดี ตนก็เป็นคนไม่ดีมาก่อน แต่ทำไมถึงไม่ให้โอกาส หากถามว่าจะเป็นคนดีหรือไม่นั้น ก็ขอบอกว่า “ผมไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วกัน ถ้าผมบอกว่าดีแล้วทำไม่ได้ก็สุนัขอีก ผมตั้งใจแล้วว่าจะเป็นคนดี” แต่ถ้าไม่ได้บวชที่วัดดังกล่าว ก็คงบวชที่วัดอื่นเพราะมีพระสงฆ์บางวัดได้แนะนำให้ไปบวช ซึ่งตนก็จะขอไตร่ตรองอีกครั้ง ขณะที่พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์นักคิด พระวัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า หากใครตัดสินใจที่จะบวชต้องมีการเตรียมเอกสารเช่นใบรับรองแพทย์ เอกสารรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนมีคดีอะไรติดตัวหรือไม่ แต่สำหรับกรณีดังกล่าวทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกลับตัดสินคนจากภายนอก แค่เห็นว่าสักก็ปฏิเสธที่จะให้บวชแล้ว และควรที่จะพูดจากับผู้ที่จะมาบวชให้ดี เพราะทุกคนต้องมีอดีตที่เคยผิดพลาด บางคนอาจอยากกลับตัวกลับตนก็ได้ ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ บอกว่า พุทธศาสนานำคนที่ไม่ดีมาขัดเกลาให้เป็นบุคคลที่ดี จึงไม่อยากให้ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก และการเหมารวมว่าผู้ที่สักเป็นผู้ที่ไม่ดีนั้น กลายเป็นว่าคนที่สักถูกตราบาป เพราะบางคนสักแล้วเป็นคนดีก็มีจำนวนมากจึงอย่าเอาสิ่งดังกล่าวมาตัดสินคน ทางด้านพระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) บอกว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่เห็นด้วยกับผู้ที่สักแล้วจะบวชเป็นพระ เพราะตนยึดหลักที่ว่าไม่ทันบวชแต่ออกลายเสียแล้ว ตนมองว่า เวลาพระบิณฑบาตรแล้วประชาชนพบเห็นอาจเกิดความหวาดกลัวได้ ซึ่งหากผู้ที่มีรอยสักบวชเข้ามาเป็นพระแล้วจะมีสิ่งใดรับประกันว่าถ้าบวชแล้วจะเป็นคนดี เพราะหากอยากประพฤติตนเป็นคนดีก็ไม่จำเป็นต้องบวชก็ได้ เพียงแต่ยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีสติก็นับว่าประเสริฐแล้ว ดังนั้นคนที่จะบวชต้องคิดและไตร่ตรองให้ดี โดยก่อนหน้านี้ พระครูมงคล กิจจารักษ์ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า หลักของพระพุทธศาสนาบุคคลที่ครบอายุบวชจะต้องมาอยู่วัดเพื่อท่องขันนาค แต่ทุกวันนี้ไปถึงก็จะบวชกันเลย ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นคนที่จะบวชต้องมีร่างกายครบ 32 บุคคลที่จะบวชนั้นต้องดูเกลี้ยงเกลา เราจะช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองแบบไหน เช่น หนุ่มสักลายคนหนึ่งมาขอให้อาตมาบวชให้ ถามว่าเขาผิดไหมที่เขาจะบวชตอบได้เลยไม่ผิด แต่ที่อาตมาไม่สามารถบวชให้ได้ เนื่องจากว่าเขาได้สักทั้งตัว รวมถึงใบหน้าซึ่งอาตมาก็ได้ใช้ดุจพินิจของอาตมาเองว่าไม่สามารถบวชให้ได้ แต่เขาจะไปบวชที่วัดอื่นก็เป็นอีกเรื่อง พระสงฆ์ที่บวชแล้วออกไปบิณฑบาตรสักทั้งตัวทั้งใบหน้าญาติโยมที่ไหนอยากจะใส่บาตร เพราะฉะนั้นอยู่ที่ความเหมาะสมของคนที่จะบวช อาตมาไม่มีอคติกับหนุ่มคนสักลาย มันอยู่ที่ความเหมาะสมหรือสมควรหรือไม่ ซึ่งอาตมาในฐานะผู้ปกครองสงฆ์ระดับอำเภอจึงใช้ดุจพินิจตรงนี้ไม่สามารถบวชให้ได้ พระธีรภัทร์ นาถสีโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ กล่าวเปิดเผยว่า ทางผู้บวชต้องการที่จะบวช และได้มาติดต่อที่วัด พร้อมทั้งเตรียมของจัดงานพิธีบวชแล้ว กระทั่งถึงเวลาเข้าโบสถ์ และเมื่อเข้าโบสถ์ ได้พบกับพระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นพระเจ้าคณะอำเภอ โดยพระอุปัชฌาย์แจ้งว่า ไม่สามารถบวชให้ได้ เนื่องจากมีร่องรอยสักตามร่างกาย ที่ไม่เหมาะสมจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ทางวัดได้แจ้งกับทางพระอุปัชฌาย์แล้วเช่นกัน แต่ไม่คิดว่าจะมีรอยสักมากขนาดนี้ จึงไม่สามารถดำเนินการบวชได้ ซึ่งทางวัดไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการประกอบพิธีการบวช เพราะขึ้นอยู่กับพระอุปัชฌาย์และทางคณะสงฆ์ของจังหวัด จากนั้นพระอุปัชฌาย์ได้เดินทางกลับ โดยไม่มีพิธีบวชแต่อย่างใด ส่วนทางญาติโยมก็ได้เดินทางกลับ กระทั่งทราบว่ามีการโพสต์ในโลกโซเชียล ซึ่งทางวัดก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเช่นกัน
แสดงเพิ่ม