Sakorn News : ข่าวจับผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย2นักท่องเที่ยวชาวจีน

Sakorn News : ข่าวจับผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย2นักท่องเที่ยวชาวจีน

รับชม 19 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
sakornchannel
1,454 วิดีโอ
ที่สถานีตำรวจภูธรบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังสมุทรปราการ พลตำรวจตรีธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พันตำรวจเอกวิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผู้บังคับการฯ พันตำรวจเอกสาโรจน์ คุ้มทรัพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบ่อ พันตำรวจโทกฤติน ตปสีโล รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรบางบ่อ พันตำรวจโทวรเทพ สงวนแสง รองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางบ่อ ร่วมกันสอบปากคำนายไพศาล หรือ นิว ห่วงมาก อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/3 หมู่ที่ 7 ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.40 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกภราดร เพ็งคต พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบ่อ รับแจ้งเหตุมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ริมถนนบางนาการ์เดนท์ หน้าหอพักมัฟฟิน หมู่ 4 ตำบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จึงเดินทางเข้าตรวบสอบพบผู้เสียหายคือ นายลิว ซู( Mr.Liu Zhou) อายุ 27 ปี และน.ส.เซีย หยาง (Miss Xiayang) อายุ 28 ปี ทั้ ง2 คนมีบาดแผลที่ศีรษะถูกฟันด้วยมีด เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งรักษาที่ รพ.บางนา 2 ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยเบื้องต้นให้การว่า ถูกชายไทยไม่ทราบชื่อขี่รถจักรยานสวนทางไประหว่างเดินอยู่ริมถนน จากนั้นก็ขี่กลับมาก่อนจะใช้มีดสปาต้าหัวตัดความยาว 23 นิ้วฟันเข้ามาที่ น.ส.เซี้ย หยาง ที่บริเวณศีรษะด้านหลังเพื่อแย่งชิงกระเป๋าเดินทาง แต่นายลิว ซู ได้ต่อสู้แย่งมีดกับคนร้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันเข้าที่กลางศีรษะ ส่วนคนร้ายก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณช่วงบ่าซ้ายด้วยเช่นกัน จากนั้นคนร้ายจึงขี่จักรยานหลบหนีไป ทางชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบ่อ จึงออกติดตามโดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกดังกล่าวก็พบว่าคนร้ายคือ นายไพศาล ซึ่งมีที่พักอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตรและยังมีบาดแผลตรงกับคำให้การของผู้เสียหาย จึงนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นนายไพศาลให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ได้ประสงค์จะก่อเหตุชิงทรัพย์ พลตำรวจตรีธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรปราการ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นถึงแม้จะให้การภาคเสธ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำตัวไปเก็บดีเอนเอ และตรวจสอบลายนิ้วมือเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยมีคดีพรากผู้เยาว์มาแล้ว 2 ครั้ง จึงให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส สำหรับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังตกใจอยู่เบื้องต้นทราบว่า เพิ่งเดินทางมาไทยเพื่อท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก โดยเรียกแท็กซี่จากสนามบินให้มาส่งแต่แท็กซี่ส่งไม่ถึงที่พักเพราะขับเลยไป แท็กซี่จึงให้นักท่องเที่ยวลงและระหว่างที่เดินกลับมายังที่พัก ก็ถูกทำร้ายดังกล่าว ส่วนแท็กซี่คันที่พานักท่องเที่ยวมาส่งแต่ไม่ถึงที่พักนั้นอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมหากพบว่ามีความผิดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
แสดงเพิ่ม