Sakorn News : ยึดไม้พยุงมูลค่ากว่า 30 ล้านในโกดังแห่งหนึ่ง

Sakorn News : ยึดไม้พยุงมูลค่ากว่า 30 ล้านในโกดังแห่งหนึ่ง

รับชม 15 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
sakornchannel
1,454 วิดีโอ
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(4) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณผกก.สภ.บางแก้ว พ.อ.ประเทือง แก้วทุย รองผอ.รมน.สมุทรปราการ นายธวัชชัย นามสมุทร นายอำเภอบางพลี พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ เจ้าหน้าที่บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ สภ.บางแก้ว และหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าปิดล้อมตรวจค้นภายในโกดังเลขที่ 69/11และ69/14 หมู่2 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังสืบทราบว่ามีการซุกซ่อนไม้หวงห้ามเพื่อเตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ ผลการตรวจค้นชุดจับกุมพบไม้พยุงหั่นเป็นท่อนใส่ไว้ในลังไม้ขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมส่งออกจำนวน 9 ลัง และมีไม่ประดู่อีกจำนวนหนึ่งรวมไม้ที่พบทั้งหมดประมาณ 15 ตันโดยมีนายกิตติพร พิมลเลิศมงคล อายุ 36 ปี รับเป็นผู้เช่าโกดังแห่งนี้และมีลูกน้องอีก 4 คนกำบังแพ็คลังไม้ขนาดใหญ่อยู่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมคัวมาสอบสวนเพิ่มเติมก่อนขยายผลไปจับกุมนายเชน ไจ จุน อายุ 46 ปีและนายหง เจีย หัว อายุ 52 ปี ชาวจีนซึ่งเป็นนายทุนผู้สั่งซื้อไม้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนสาทร กทม. พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบจากสายลับว่า มีการซุกซ่อนไม่หวงห้ามเตรียมส่งออก จึงพร้อมด้วยชุดจับกุมเข้าตรวจค้นก็พบไม้พยุงจำนวนมากและไม้ประดู่อีกส่วนหนึ่ง จากการสืบสวนทราบว่า มีนายทุนชาวจีน จำนวน 4 คน ได้สั่งซื้อไม้พยุงและไม่ประดู่ จากนายกิติพร พิมลเลิศมงคล โดยให้เสี่ยเท่ เป็นผู้จัดหาไม้มาจากจังหวัดตราด และพื้นที่ป่าอื่นๆในประเทศไทย นำใส่รถกระบะปิดบังอำพรางมิดชิดมาเก็บไว้ที่โกดังแห่งนี้ และให้พนักงานที่เป็นชาวไทยใหญ่คอยเฝ้าและแพคใส่ลังก่อนที่จะบรรจุใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ส่งออก แบะจากนั้นจะมีชิบปิ้งชื่อ นาย ต๋อง มารับสินค้า เพื่อนำส่งออกตามออเดอร์ที่ท่าเรือแหลมฉลังอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบจากเอกสารการส่งออกที่พบได้มีการส่งออกไม้ไปยังประเทศจีนเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.60 ที่ผ่านมา มูลค่าในไทยประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งพลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่า ไม่ทราบว่าผ่านการสแกนจากศุลกากรไปได้อย่างไร แต่ทั้งนี้จะมีข้าราชการรู้เห็นหรือไม่จะต้องตรวจสอบอีกครั้งโดยถือว่าการเข้าค้นและจับกุมครั้งนี้เป็นขบวนการค้าไม้พยุงรายใหญ่และยังได้ครบทั้งขบวนการ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ยังไม่สามารถควบคุมตัว รวมถึงบุคคลอื่นที่อาจจะช่วยสนับสนุนในการส่งออกและหาไม้ดังกล่าวต่อไป นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากการเข้าตรวจค้นมาจาก วัดเมตตราธรรมโพธิญาน จังหวัดกาญจนบุรี และการจับกุมดาบตำรวจ 2 รายที่ อ.ด่างช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมไม้ประดู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งพบว่าเป็นไม้ล๊อตเดียวกัน ซึ่งทางชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามมาหลายวันจนกระทั่งวันนี้ได้ตัดสินใจเข้าตรวจค้นกับพบไม้ผิดกฏหมายดังกล่าว และของกลางทั้งหมด ทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้/ ร่วมกันมีมีเลื่อย โซ่ยนต์ เพื่อกระทำการแปรรูป ตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ / พยายามส่งออกของต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 อีกยังต้องเสียค่าปรับภาษีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร เป็นมูลค่า 4 เท่าของราคาทั้งหมดอีกด้วย
แสดงเพิ่ม