Sakorn News : ช่วยเหลือคนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกแก๊งcall centerหลอกลวงมาทำงาน

Sakorn News : ช่วยเหลือคนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกแก๊งcall centerหลอกลวงมาทำงาน

รับชม 39 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
sakornchannel
1,454 วิดีโอ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น.และคณะร่วมกันแถลงข่าวการบุกเข้าช่วยเหลือชาวไทยที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกายบังคับให้ร่วมกระทำผิดที่ประเทศมาเลเซีย โดยปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกับตำรวจมาเลเซีย หลังรอง ผบช.ทท.พร้อมคณะเดินทางกลับถึงไทย ณ ห้องประชุม กก.3 บก.ทท.1 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า หลังตำรวจชุดปฏิบัติของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.ฉปทน.ตร.) ได้ทำการสืบสวนขยายผล ทราบว่าปัจจุบันกลุ่มผู้กระทำความผิดส่วนหนึ่ง มีฐานที่ตั้งทำการโทรศัพท์ มาหลอกลวงประชาชนไทยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ ทางชุดปฏิบัติการ สามารถจับกุม ขบวนการ Call Center ได้ผู้ต้องหา 40 คน จึงเชื่อมโยงกับเครือข่าย ที่เข้าจับกุมในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่จาก สํานักงานตํารวจแห่งชาติมาเลเซียร่วมกับ ตำรวจไทย ได้มีการประชุม แลกเปลี่ยนข้อมูล กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนจะร่วมกัน บุกเข้าทลายแก๊งดังกล่าวซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ จนสามารถช่วยเหลือเหยื่อชาวไทย 2 ราย คือนายเก ศูนย์กลาง อายุ 39 ปี และนายอรรถกฤษ หล้าเชียงของ อายุ 23 ปี ทั้งสองคนเป็นชาวจังหวัดพะเยา ที่ถูกหลอกให้ไปทำงาน ในมาเลเซีย โดยนายหน้าอ้างว่า ให้ไปทำงานในร้านอาหาร แต่เมื่อไปถึงกลับถูกหลอก ให้กระทำความผิดโทรศัพท์มาหลอกลวงคนไทย แต่ทั้งสองคนไม่ยอมทำ จึงถูกทำร้ายด้วยการถูกสายไฟตีและถูกซ้อม รวมทั้ง ยังสามารถ จับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดที่ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและใช้กำลังประทุษร้ายบังคับให้เหลือชาวไทยทั้ง 2 รายกระทำความผิดโดยจับกุมชาวไต้หวัน 3 คน ประกอบด้วยนายเรนโบว์ยูรอายุ 28 ปี นายซู อายุ 24 ปี และนายโจ อายุ 22 ปี และชาวมาเลเซียอีก 2 คน คือนายทัม อายุ 30 ปีและหญิงไม่ทราบชื่ออายุ 35 ปี รวม5 คน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ ทางการมาเลเซียอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เพื่อหาวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีส่วนเหยื่อชาวไทยทั้ง 2 รายขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียโดยมีกงสุลไทยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อสอบปากคำในฐานะพยานก่อนส่งตัวกลับมาประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของการประชุมหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ได้มีข้อเสนอให้มีการจัดประชุมเรื่องเกี่ยวกับการกระทำความผิดด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างตำรวจมาเลเซียและตำรวจไทย ปีละ 2 ครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งหลังจากนี้ตน จะรายงาน เรื่องดังกล่าว ต่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผบ.ตร.อีกครั้ง รวมถึง ทางตำรวจมาเลเซียขอให้ไทยเร่งรัดการส่งตัวผู้เสียหาย ในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำการไทยได้ช่วยเหลือ ในพื้นที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กลับประเทศมาเลเซียโดยเร็วซึ่งหลังจากนี้ ตนก็จะประสานงานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการและอัยการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเร่งรัดให้มีการสอบปากคำพยานล่วงหน้าก่อนจะนำตัว ผู้เสียหายชาวมาเลเซียทั้ง 3 คนส่งกลับประเทศต่อไป
แสดงเพิ่ม