-เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 16 ก.ค.61 ที่ท่าเทียบเรือศูนย์วิจัย บ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เรือตรวจการณ์ 234 กองทัพเรือ จอดเทียบท่าเพื่อลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งพบลอยอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะราชา อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมี นาวาเอกนพดล บุญเจริญ ผอ.กองส่งกำลังบำรุง ทัพเรือภาคที่ 3 และญาติๆผู้เสียชีวิตมารอรับศพ
-ทั้งนี้ ศพดังกล่าว เป็นชายสวมเสื้อ Blackfox Thailand Fishing และกางเกงผ้าร่มสีดำ ที่คอสวมสร้อยสแตนเลสสีขาว มีกระเป๋าเงินติดตัว 1 ใบ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น 1 ใน 2 ชาวประมง บ้านบางคณฑี ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต คือ นายปวิตร สาลี่ หรือ บังหลี อายุ 58 ปี และ นายศักดิ์ศรี เนาวไพร หรือบังชุก อายุ 41 ปี ที่หายตัวไป ขณะออกหาปลาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกิดเหตุเรือฟินิกส์เเละเรือเซเรเนต้าถูกคลื่นซัดจมจนมีนทท.ชาวจีนเสียชีวิต 47 ราย
-จากการสอบถามญาติทราบว่า บังหลี และบังชุก เป็นญาติกัน ได้ออกเรือจากบ้านบริเวณหาดราไวย์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.61 เพื่อทำการประมงในน่านน้ำ ฝั่งทิศใต้ของ จ.ภูเก็ต ก่อนนอนพักบนเกาะราชาน้อยในคืนวันที่ 4 ก.ค. จากนั้นในวันที่ 5 ก.ค.ทั้งสอง ได้วิ่งเรือเข้าไปยัง เกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ ในช่วงเช้าเพื่อพบกับเพื่อนที่เป็นชาวประมงด้วยกันเพื่อขอยืมสมอเรือเนื่องจากสมอเรือขาด ก่อนออกทำการประมงอีกครั้ง ในห้วงเวลา 13.00 น. - 15.00 น. โดยจากการบอกเล่าของเพื่อนที่ให้ยืมสมอ ว่าพบเห็นทั้งสองครั้งสุดท้าย ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งทั้งสองทอดสมอห่างจากเกาะราชาใหญ่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 2-3 ไมล์ทะเล ก่อนที่เวลา 16.30 -16.40 น. ได้มีพายุพัดเข้าทางทิศตะวันตก ของเกาะราชาใหญ่ และไม่พบเห็นทั้งสองอีก
-อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบกระเป๋าเงินภายในตัวพบว่า มีบัตรประชาชนระบุชื่อ นายศักดิ์ศรี เนาวไพร หรือบังชุก อายุ 41 ปี ขณะที่เพื่อนๆที่พบเห็นครั้งสุดท้ายให้การว่าเห็นผู้ตายสวมชุดดังกว่าขณะที่มายืมสมอเรือ อีกทั้งที่ตัวยังพบว่าสวมสร้อยคอลักษณะตรงตามที่เคยพบเห็น ขณะที่ นายปวิตร สาลี่ หรือ บังหลี อายุ 58 ปี นั้นขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
แสดงเพิ่ม
