รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 694 เลือกหุ้นเด่นน่าลงทุน โดย บล. ฟิลลิป | บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 694 เลือกหุ้นเด่นน่าลงทุน โดย บล. ฟิลลิป | บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

รับชม 0 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
"หุ้นเริ่มผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวร้าย แต่ระยะยาวยังน่าสนใจลงทุน" ช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงฤดูกาลประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในรอบปี 2560 ซึ่งโดยรวมบมจ. หลักทรัพย์ฟิลลิป มองว่าออกมาในเกณฑ์ดี กำไรบริษัทจดทะเบียนโตขึ้นประมาณ 9% ขึ้นมาใกล้เคียง 1 ล้านล้านบาท ซึ่งก็เป็นเหตุผลให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนปี 2561 แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนก็น่าจะยังคงดีต่อเนื่อง และน่าจะโตได้มากกว่าเดิมด้วย โดย EPS ของตลาด น่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 13% ซึ่งเมื่อคิดคำนวณบนฐานของ PE แบบระมัดระวัง คือให้ค่า PE ที่ระดับ 15-16 เท่า ก็จะได้ระดับ ดัชนีที่ประมาณ 1700-1800 ต้นๆ ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากตรงนี้มากนัก แต่แน่นอนว่าแม้ดัชนี อาจไม่ได้ไปไกลจากตรงนี้อีกไกลเท่าไร แต่ก็จะมีหุ้นที่โดดเด่นโตได้มาก กับหุ้นที่โตได้น้อยกว่าตลาดซึ่งกลยุทธ์ก็ยังคงค้อง Selective เลือกหุ้นให้ถูกตัวเช่นเคย ปัจจัยที่น่าจะช่วยให้ EPS เติบโตได้มากถึง 13% ยังเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทย น่าจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งกำไรบริษัทจดทะเบียนน่าจะโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจไทย ที่ GDP น่าจะโตที่ระดับประมาณ 4% เท่านั้น ส่วนเรื่องที่ยังต้องจับตามอง ส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่ก่อนนี้คาดว่าจะขึ้นแค่ 3 ครั้งในปีนี้ แต่ตอนนี้เริ่มมองว่าอาจจะมากกว่านั้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการค้าระหว่างประเทศจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ และรวมถึงเรื่องการเมืองของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในยุโรป ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุนการแยกตัวออกจากยุโรปจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนหุ้นแนะนำที่ทางฟิลลิปชอบ เรามองไปยังหุ้นที่ 1. ยังขึ้นน้อยหรือ Laggard 2. มีการเติบโตที่ดี 3. มีการจ่ายปันผลดี โดยหุ้นที่เติบโตดีและยังขึ้นไม่มาก มี 2 ตัว คือ RS และ AAV ส่วนหุ้นปันผลแนะนำ TKS ในส่วนของ RS ปีที่แล้วกำไรโต 12% ขยับขึ้นมาเป็น 3,500 ล้านบาท แต่ปีนี้ เรามองว่าจะโตได้ถึง 68% มาอยู่ที่ 5,878 ล้านบาท หลักๆมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ หันมาเน้นสินค้าหมวดสุขภาพและความงาม รวมทั้งสินค้าในครัวเรือน และลดการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจสื่อ โดยปีนี้ รายได้จากธุรกิจสื่อจะลดลงมาเหลือแค่ 1 ใน 3 ของรายได้รวม ขณะที่สินค้าสุขภาพและความงาม จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 44% เราให้ราคาเป้าหมายที่ 37 บาท ส่วน AAV ได้อานิสงค์จากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากชาวจีน โดยปีก่อน นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 35 ล้านคนส่วนปีนี้น่าจะขึ้นมาเป็น 37 ล้านคน ซึ่งสัดส่วนของปีก่อน นักท่องเที่ยว 28% เป็นชาวจีน AAV ซึ่งเน้นตลาดจีนจึงน่าจะได้ประโยชน์ที่สุด รวมทั้งราคาก็ยังขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับตลาด ส่วนหุ้นปันผล เราแนะนำ TKS เพราะตั้งแต่เข้ามาจดทะเบียนเมื่อปี 2547 ก็จ่ายปันผลทุกปี ไม่ส่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี โดยค่าเฉลี่ยของเงินปันผล อยู่ที่ 5.8% ต่อปี ขณะที่ทั้งตลาด จ่ายปันผลที่ 3.5% และ SETHD จ่ายปันผลที่ 4.1% เท่านั้น ปีนี้คงเป็นอีกปีที่หุ้นไทยผันผวน แต่ความผันผวนก็อยู่คู่กับตลาดเป็นปกติอยู่แล้ว ก็อยากให้ระมัดระวังการลงทุนเช่นเคย หากมีข้อสงสัยโทรมาพูดคุยกับทางฟิลลิปได้ที่ 02-635-1700 ต่อ 486
แสดงเพิ่ม