รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 783 ทิศทาง SET Index โค้งสุดท้าย ปี 2561 | บล.ไอร่า

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 783 ทิศทาง SET Index โค้งสุดท้าย ปี 2561 | บล.ไอร่า

รับชม 21 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
"หุ้นไทยน่าจะทรงตัวต่อได้ จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง น่าจะช่วยประคองตลาด ส่วนหุ้นที่น่าสนใจ แนะนำ BR" AIRA ประเมินตลาดหุ้นไทยว่าจะยังอยู่ในลักษณะ Sideway ไปอีกระยะ หลังจากปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้รับข่าวบวก เรื่องความชัดเจนในประเด็นการเลือกตั้ง และเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณ 1,750 จุดมากว่า 1 สัปดาห์ โดยประเด็นที่ตลาดยังรอความชัดเจนอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัจจัยต่างประเทศ เช่น แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ที่ตลาดได้คาดหวังถึงการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในช่วงหลังจากนี้ และล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับราว 3.10 ซึ่งเป็นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ในระยะสั้นนี้ AIRA ประเมินว่า ตลาดจะยังคงไม่วิตกนักว่าการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ จะเป็นตัวฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงร้อนแรง และจะยังสร้างความมั่นใจให้กับตลาดหุ้นสหรัฐไปอีกระยะ พิจารณาจากล่าสุดที่จำนวนชาวสหรัฐ ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 49 ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1969 ขณะที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 138.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ประเด็นสงครามการค้า สหรัฐ-จีน ซึ่งเป็นประเด็นซึ่งมีน้ำหนักอยู่ในปัจจุบัน และยังมีความไม่แน่นอนสูง น่าจะยืดเยื้อไปอีกระยะ โดยหากพิจารณาจากบริบททางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้เชื่อได้ว่า ทางสหรัฐยังเล่นบทแข็งกร้าวต่อไปได้ แม้จะมีประเด็นการเมืองภายในประเทศเข้ามารบกวนบ้างจากการเลือกตั้งกลางเทอม ช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ล่าสุดสหรัฐใช้มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% และจะปรับขึ้นเป็น 25% ในปีหน้า ขณะที่จีนตอบโต้ทันทีโดยจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเนื่องกันนี้สหรัฐได้ขู่ที่จะจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับว่าจะจัดเก็บภาษีสินค้าทุกอย่างที่นำเข้าจากจีน อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าตลาดได้คาดหวังถึงการยืดเยื้อของสงครามการค้า สหรัฐ-จีน เข้าไปแล้ว และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจะยังไม่เห็นอย่างทันทีทันใด โดยเราประเมินว่าอย่างน้อยจีน จะยังสามารถรับมือกับข้อขัดแย้งดังกล่าวไปได้ถึงสิ้นปีนี้ก่อนถึงกำหนดการขึ้นอัตราภาษีเป็น 25% อานิสงค์จากเงินหยวนที่ได้อ่อนตัวลงมาแล้วราว 9% ด้านมุมมองเศรษฐกิจของไทยต่อสายตานักลงทุนต่างประเทศ โดยรวมถือว่ามีเสถียรภาพ ทั้งในแง่ของค่าเงิน ที่มีระดับความผันผวนต่ำ เมื่อเทียบกับตลาด Emerging ด้วยกัน ผลจากปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงถึง 2 แสนล้านเหรียญ และการก่อหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ โดยหนี้สาธารณะต่อจีดีพีปัจจุบันอยู่ที่ 41% เท่านั้น ด้านอัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำ สะท้อนสเถียรภาพของราคา ขณะที่ในแง่การเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี ล่าสุด กนง. คงประมาณการ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้ที่ 4.4% ซึ่งใกล้เคียงกับ Potential GDP ของไทยในระยะยาวที่ 4-5% ด้านราคาน้ำมันที่เป็นปัจจัยชี้นำสินทรัพย์เสี่ยง ยังคงอยู่ในระดับสูง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่กว่า 81 เหรียญฯ/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ที่จะส่งผลให้อุปทานในตลาดตึงตัว โดยสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับคำสั่งซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. 61 ขณะที่การเรียกร้องของนาย Donald Trump ให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มกำลังการผลิตนั้นไม่เป็นผล ซึ่งประเด็นนี้จะช่วยค้ำยันหุ้นในกลุ่มใหญ่คือกล่มพลังงานของไทย ในระหว่างนี้ที่ยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ต่อตลาด กลยุทธ์การลงทุน ครั้งนี้ AIRA เน้นหุ้นที่ Under owned และปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงก่อนหน้า ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 2H61 ปรับตัวดีขึ้น ครั้งนี้ AIRA นำเสนอ BR มูลค่าเหมาะสมเราประเมินไว้ที่ 7.30 บาท โดยมองว่า • 2H61 ฟื้นตัวโดดเด่น หลัง 1H61 มีค่าใช้จ่ายพิเศษรวมกว่า 80 ล้านบาท ในช่วง 2Q61 ประกอบกับการเข้าสู่ช่วง High Season จากเทศกาลต่างๆช่วงปลายปี รวมถึงราคาเป็ดในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวตามราคาไก่ที่มีการปรับราคาขึ้นต่อเนื่องจนสูงสุดในรอบ 11 เดือน ซึ่งมองว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง • มองเติบโตได้แข็งแกร่งในระยะยาว โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสร้างโรงงานอาหารแปรรูปใหม่และเพิ่งเริ่มต้นเปิดใช้ในช่วง 3Q61 รวมถึงยังอยู่ในช่วงก่อสร้างโรงเชือดเป็ดแห่งใหม่ที่คาดเปิดดำเนินการได้ใน 2H62 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในไทยได้สูงสุดกว่าเท่าตัว หลังไม่มีการเพิ่มกำลังการผลิตในหลายปีที่ผ่านมา และมีการผลิตเต็มกำลังการผลิตในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายและหนุนผลการดำเนินงานของ BR ให้สามารถเติบโตแข็งแกร่งได้ในอนาคต • แม้ภาพรวมปี’61 จะกดดัน จากค่าใช้จ่ายพิเศษในช่วง 2Q61 แต่มอง BR สามารถกลับมาเติบโตแข็งแกร่งกว่า 38% ได้ในปี’62 โดยประเมินราคาเหมาะสมปี’62 ที่ 7.30 บาท อิงระดับ P/E 14 เท่า แนะนำ “ซื้อ”
แสดงเพิ่ม