ประเมินหุ้นโรงไฟฟ้ารับแผน PDP ใหม่ | บล. ซีจีเอส–ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

ประเมินหุ้นโรงไฟฟ้ารับแผน PDP ใหม่ | บล. ซีจีเอส–ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

รับชม 10 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
ช่วงที่ผ่านมาหุ้นโรงไฟฟ้าปรับตัวลง บล. ซีจีเอส - ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) มีมุมมองต่อหุ้นโรงไฟฟ้าว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ 1. บริษัทเหล่านี้มีกำไรเติบโตมายาวนาน ราคาหุ้นขึ้นมาเร็ว เมื่อตลาดเริ่มเปลี่ยนทิศในเดือนก.พ. หุ้นกลุ่มนี้จึงถูกขายทำกำไร มองเป็นการขายทำกำไร มิใช่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน 2. เดือน มี.ค. มีข่าวว่า รมต. พลังงานจะหยุดการรับซื้อพลังงานทดแทนจากเอกชน ในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี สองสาเหตุนี้เองทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเผชิญแรงเทขาย ทั้ง GPSC GULF BGRIM EA ประเด็นนโยบายภาครัฐส่งผลต่อหุ้นกลุ่มนี้หรือไม่ คำตอบคือไม่มีผลกระทบ ดูจาก หุ้น 4 ตัวนี้แทบจะไม่สนใจการประมูลพลังงานทดแทนในไทยเลยเพราะ renewable ในประเทศไทยช่วงหลังราคาตกลงมาจาก 10 กว่าบาท/ หน่วยไฟฟ้า เหลือ 3 บาท หรือต่ำกว่า การที่ตกลงมาแบบนี้ทำให้ return ของกลุ่มโรงไฟฟ้าลดลงมามาก เหลืออยู่ 10% บวกลบ โดยวัดในแง่ IRR ซึ่งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเกณฑ์12% ขึ้นไปก็ไม่สามารถเข้ามา bid แล้วชนะได้ ก็จะเหลือแต่หุ้นตัวเล็กๆ ที่สนใจการประมูล ---หุ้น TOP PICK--- 1. GPSC – การปรับฐานที่เห็น ค่อยๆ ลง ค่อยๆ ขึ้น ซึ่งต่างจากตัวอื่น ส่วนเชิงพื้นฐาน GPSC มีความโดดเด่นจากการมี pipeline เข้ามาจากปีที่แล้ว ปีนี้เข้ามาเต็มปี ยังมีประเด็นสนับสนุนเรื่องไซยะบุรีเข้ามา และถ้ามองไปไกลอีกหน่อย กำลังการผลิตไฟฟ้ามีโอกาสเติบโตถึง 1,000 เมกะวัตต์ เยอะมาก คิดเป็นเพิ่มขึ้น 50-60% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน หลักๆ เกิดจากกลุ่ม ปตท. มีแผนขยายกำลังการผลิตใน 3-5 ปีข้างหน้า ทั้ง PTTGC ที่มีแผนขยายโรงงานในมาบตาพุด TOP ทีจะมีขยายโรงกลั่น และ IRPC ด้วย ทั้งหมดจะก่อให้เกิด demand โรงไฟฟ้าภายในกลุ่มโดยไม่ต้องพึ่งภาครัฐ อนาคตโครงการ battery ก็ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุน ให้ราคาเป้าหมาย 95 บาท มี upside 20% 2.GULF – หุ้นมีความน่าสนใจในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่เป็นเอกชนในโรงไฟฟ้าแบบ conventional ไม่ใช่ renewable ฉะนั้น ไม่มีผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลแน่นอน GULF มีเรื่องราวในการเติบโต กอปรกับราคาหุ้นที่ปรับฐานจาก 80 กว่า ลงมาเหลือ 60 กว่า นี่คือจังหวะในการเข้าซื้อหากต้องการลงทุนในระยะยาว อนาคต GULF จากการที่มีโรงไฟฟ้าที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 10% ของประเทศไทย ทำให้มีศักยภาพมากพอที่จะลงทุนหรือนำเข้าก๊าซ LNG เพื่อใช้เองหรือขายต่อ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 80-90 บาท ยังมี upside 20% เช่นกัน 3. BGRIM – มี story ในการเติบโตเช่นกัน ราคาหุ้นปรับฐานจาก 33 บาทเป็น 27 บาท หากท่านนักลงทุนมองหาหุ้น value stock มีการเติบโต มีการดำเนินงานที่ดี โปร่งใส่ ทีมงานดี ประสบการณ์ดีมาก หุ้น BGRIM จะเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ดี มองราคาเป้าหมาย 39 บาท และมี upside 30% บวกลบ หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง TPCH, PSTC, GUNKUL ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐบาลเพราะบริษัทเหล่านี้มีความคาดหวังที่จะได้การประมูลเพิ่มเติมกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มาจากพลังงานทดแทน เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนนโยบาย หุ้นสามตัวนี้จึงลงมาเจอ new low และทำให้ลดความน่าสนใจลง ซึ่งขณะนี้ไม่แน่ใจว่าทิศทางนโยบายรัฐบาลจะไปทิศใดแน่ชัด แผน PDP ของทางการยังไม่ออก คาดว่าจะเป็นไตรมาส 3 หรือ 4 ของปี 2561 นี้ พอแผนออกมาเราจึงจะพอเห็นว่ากำลังการผลิตใหม่หรือ growth จากหุ้นเหล่านี้อยู่ตรงไหน กล่าวโดยสรุปวันนี้ ถ้าจะลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กควรจะมองเป็นลักษณะกลุ่ม value stock มิใช่ growth เพราะราคาหุ้นที่ตกลงมามากทำให้ valuation ลง
แสดงเพิ่ม