"ในช่วงนี้เราชอบตลาดหุ้นไทย และมองว่าสิ้นปี ยังมีลุ้นที่หุ้นไทยจะไปถึง 2000 จุดได้ จากข่าวบวกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเงินบาทและสงครามการค้าที่น่าจะเบาลง"
ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายเรามองว่าน่าจะเป็นช่วงที่ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกและคาดว่ามีโอกาสที่หุ้นไทยจะขึ้นได้แรง เป้าหมายยังมองไว้ที่ 2000 จุด จากเงินของต่างชาติที่น่าจะเริ่มกลับเข้ามา
ปกติแล้ว เวลาต่างชาติพิจารณาลงทุน จะมองสินทรัพย์อยู่ 3 ประเภทคือ
1. ค่าเงิน
2. ตลาดตราสารหนี้
3. ตลาดหุ้น
ซึ่งของไทย แม้เงินจะยังไม่ได้ไหลเข้าตลาดหุ้นแต่ค่าเงินบาทแข็งค่ามาตลอด เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ที่เงินไหลเข้าต่อเนื่อง
ในส่วนของค่าเงินนั้น เงินบาทอยู่ในจุดที่แข็งค่า ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากความแข็งแรงและเสถียรภาพด้านการต่างประเทศของไทย ก็ไม่แปลกที่เงินบาทจะแข็ง เพราะเรามีเงินเฟ้อในระดับต่ำ มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง มีระดับเงินทุนสำรองในระดับสูง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าฐานะการเงินของไทยแข็งแกร่ง เงินบาทจึงเป็นสินทรัพย์เลอค่าและเป็น Safe Haven ของนักลงทุนทั่วโลก
หากพิจารณาให้ชัดขึ้น ระดับความพอเพียงของทุนสำรองของไทยถือว่าสูงมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและเปรู จริงอยู่ถ้านับเป็นตัวเงิน จีนอาจมีเงินทุนสำรองมากถึง 3 ล้านล้านเหรียญ แต่ถ้าเทียบกับปริมาณการนำเข้า และการต้องใช้เงินตราต่างประเทศแล้ว ไทยถือว่าอยูาในจุดที่เงินทุนสำรองพอเพียงมากกว่าจีนด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เรายังมีความต้องการเงินกู้จากต่างประเทศไม่มาก ซึ่งประเทศอย่างตุรกี แอฟริกาใต้ มีเงินทุนสำรองน้อย แถมยังต้องการเงินกู้ต่างประเทศมาก จึงไม่แปลกที่สองประเทศที่มีค่าเงินที่อ่อนค่าอย่างหนัก
ด้านการค้าระหว่างประเทศ TMBAM มองว่าสถานการณ์การค้าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้าย จากสองเหตุผล หนึ่ง จีนได้ผ่อนคลายนโยบายการคลังมาตั้งแต่กลางปี น่าจะเริ่มเห็นผลบวกกับเศรษฐกิจจีนในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า และสอง สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐน่าจะเบาลง หลังผ่านการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 6 พ.ย. นี้ เพราะในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนเป็นเกมต่อรองทางการเมืองและมีเป้าหมายเรื่องคะแนนเสียง มากกว่าจะเปิดสงครามกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ
สุดท้าย เรามองว่าตลาดฟุ้นไทย น่าจะสดใส เราจึงแนะนำกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน 3 ระยะ คือ ระยะสั้น(S) กลาง(M) ยาว(L) โดย กอง S จะลงทุนในหุ้นประมาณ15% เหมาะกับการลงทุนในระยะเวลา 2-3 ปี กอง M ลงทุนในหุ้นประมาณ 30% เหมาะกับการลงทุนระยะ 3-5 ปี และกอง L ลงทุนในหุ่นประมาณ 60% เหมาะกับการลงทุนในระยะ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งนอกเหนือจากหุ้น ก็จะกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่นตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุน REITs เป็นต้น
แนะนำกองทุนรวมผสม 3 กองทุน ซึ่งเน้นการลงทุนในไทยเป็นหลัก
กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน ระยะสั้น (S)
กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน ระยะปานกลาง (M)
กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน ระยะยาว (L)
หากสนใจสามารถสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1725 หรือที่ธนาคาร TMB ทุกสาขา
แสดงเพิ่ม
