ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยได้อย่างมั่นใจด้วยการวางแผนสุขภาพกับโรงพยาบาลพระรามเก้า
- สุขภาพที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต ดังคำกล่าวคนโบราณว่าไว้ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เมื่อ 30 ถึง 40 ปีที่แล้วประชากรมีอายุเฉลี่ย 60 ปี ทว่าปัจจุบันมีอายุเฉลี่ย 75 ปี นอกจากนี้สถาบันสถิติแห่งชาติคาดการณ์ว่าประชากร 20% หรือหนึ่งในห้าของคนไทยจะมีอายุเกิน 60 ปี
- แน่นอนคนที่อายุเกิน 60 ปีก็จะมีโอกาสเป็นโรคแทรกซ้อน ยิ่งอายุเยอะยิ่งมีโอกาสเกิดโรคเยอะดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีจะเป็นสิ่งที่ป้องกันเราจากโรคภัย ทั้งปวง
- การรักษาพยาบาลที่ดีประกอบไปด้วยการป้องกัน ดูแลรักษาและการฟื้นฟู โดยโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความพร้อมให้บริการในทุกด้านของการรักษาพยาบาลที่ดี
- โรงพยาบาลมีอายุ 26 ปี เริ่มก่อตั้งโดยทีมแพทย์ที่จบจากต่างประเทศ เมื่อเริ่มก่อตั้งมีแพทย์มาร่วมทีมประมาณ 200 ท่าน ทุกคนมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือจะต้องสร้างโรงพยาบาลที่มีคุณภาพซึ่งต้องประกอบไปด้วยสองปัจจัยหลัก 1. บุคลากรต้องมีความพร้อมความชำนาญ. ปัจจุบันโรงพยาบาลพระรามเก้ามีทีมแพทย์ประมาณ 600 ท่าน และมีบุคลากรทางการแพทย์ประมาณ 900 ท่าน ใน 900 นี้มีพยาบาลที่ทำงานเต็มเวลากว่า 400 ท่าน และมีแพทย์ประจำประมาณ 120 ท่าน ฉะนั้นจะมีความพร้อมในการรักษาโรคแทรกซ้อนได้เป็นอย่างดี
- นอกจากเรื่องบุคลากรคุณหมอท่านยังให้ความสำคัญในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับคนไข้เป็นรายแรกแรกเช่น ปี 2004 ถือเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกๆ ที่มีการนำเครื่องอัลตราซาวด์แบบสี่มิติเข้ามาใช้
- ปี 2560 ได้มีการนำเครื่อง CT scan 640 slices เข้ามาใช้ซึ่งก็จะทำให้การวินิจฉัยโดยเฉพาะเส้นเลือดนั้นแม่นยำยิ่งขึ้น
- ปี 2535 ถึง 2560 โรงพยาบาลพระรามเก้าถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีการผ่าตัดเปลี่ยนไตมากที่สุดในประเทศไทย. จริงๆแล้วสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนไตได้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดโรงพยาบาล
- นอกจากนี้โรงพยาบาลก็มีศูนย์การแพทย์ถึง 20 ถึง 30 ศูนย์เช่นสถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต สถาบันหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
- เป้าหมายการเติบโตโรงพยาบาลจะไม่ใช้วิธีขยายสาขาแต่จะซื้อที่บริเวณติดกันเพื่อขยาย อีกตึกหนึ่งในงบลงทุน 2000 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารหลังใหม่สูง 16 ชั้น บนพื้นที่สามไร่ เหตุผลที่สำคัญที่สุดพี่ไม่ได้มีแนวคิดขยายสาขาก็คือการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน. ทุกวันนี้ได้นำเอาความเป็นดิจิทอลและเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น ทั้งนี้จะต้องเปลี่ยนลักษณะการทำงาน เปลี่ยนประสบการณ์การสัมผัสได้ของคนไข้ เพื่อความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
- ยกตัวอย่างคนไข้รายหนึ่งอยู่เชียงใหม่ป่วยเป็นเบาหวาน ก็จะมีเครื่องมือตรวจ ใช้ตรวจเจาะน้ำตาล และส่งข้อมูลขึ้น Cloud จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งมาที่โรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อดำเนินการรักษาคนไข้ทันท่วงที
แสดงเพิ่ม
