“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พูดถึงภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2561 ว่าสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยรายได้ทั้งปีแตะระดับ 3 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้ว่าจะเพิ่มขึ้น 10%
“เราพยายามจะรักษาโมเมนตัมการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวกระแสหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน การท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ทุกอย่างยังเดินหน้าตามแผน แม้ว่าจะมีปัญหาฝุ่น PM2.5 แต่ตัวเลขก็ยังดี“
ผู้ว่า ททท. ยังมั่นใจว่ารายได้การท่องเที่ยวจะเติบโตสู่ระดับ 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.2 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวในประเทศอีก 1.1 ล้านล้านบาท
สำหรับประมาณการปี 2562 คาดว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาประเทศไทย 40 ล้านคน แต่สิ่งที่ ททท. ต้องการมากกว่านั่นคือ การดึงดูด “นักท่องเที่ยวคุณภาพ”
คุณยุทธศักดิ์มองภาพการท่องเที่ยวไม่ได้ถูกเป็นแค่การสร้างรายได้เข้ารัฐ แต่เป็นเครื่องมือในการ "กระจายรายได้" และลดความเหลื่อมล้ำ
ในประเด็นนี้ จึงมีการเดินหน้านโยบายเมืองรองอย่างต่อเนื่อง เพื่อพานักท่องเที่ยวไปใช้จ่ายในเมืองรองมากขึ้น ทั้งคนไทยและต่างชาติ
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีแนวทางส่งเสริมและทำตลาดท่องเที่ยว ดังนี้ :
1. สร้างการรับรู้คุณค่า สร้างประสบการณ์ในการเดินทางมากกว่ามุ่งเน้นด้านราคา ภายใต้แบรนด์ "Amazing Thailand"
2. กระตุ้นให้เกิดการเดินทางจริงของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย เช่น เราอยากให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เพราะการเติบโตของ Low Cost Airlines มาตรการในการดึงดูดนักท่องเที่ยวของหลายประเทศ การผ่อนผันเรื่องวีซ่า ทำให้คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การทำตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คุณยุทธศักดิ์ ชี้ให้เห็นว่ามีความพยายามมุ่งเน้นในกลุ่มเฉพาะมากยิ่งขึ้น เช่น กลุ่ม Health and Wellness, Wedding, Honeymoon กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา และกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะเราต้องการสร้างให้เกิดสมดุล ครบทุกมิติ
และในอีกด้านหนึ่งของยุทธศาสตร์ของ ททท. ยังต้องการเน้นสร้างและกระจายรายได้ให้กับชุมชนด้วย
ผู้ว่า ททท. บอกว่าเมืองไทยมีอัตลักษณ์การท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากบรรยากาศแล้ว การฟังเรื่องราวต่างๆ ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เป็นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ
เรื่องราวต่างๆ ผ่านชาวบ้าน จึงเกิดเป็นโครงการที่ทำร่วมกัน เรียกว่า "Local Hero"
รูปแบบการกระจายรายได้จากนักท่องเที่ยวสู่ชาวบ้านในพื้นที่ เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นทันทีจากการท่องเที่ยว และนี่คือมาตรการของรัฐในการกระจายรายได้สู่พื้นที่
แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยในอนาคต
คุณยุทธศักดิ์บอกว่าแผนยุทธศาสตร์ของ ททท. อยู่ในกรอบเวลาตั้งแต่ปี 2560-2565 เช่น มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยการกำหนดรายได้จากการท่องเที่ยวต้องคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด เพื่อความยั่งยืน และนโยบายลดความเหลื่อมล้ำยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่า ททท. ยังคาดหวังนโยบายของรัฐบาลใหม่ทางด้านบวก น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น และอยากจะเห็นการต่อยอด เพราะสุดท้ายผู้ที่ได้รับประโยชน์ คือ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ และผู้ประกอบการ
ส่วนข้อคิดที่ฝากถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อยากให้คำนึงถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะหากสามารถจับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน มีแผนการตลาดที่แม่นยำ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น
“อย่าทำตลาดด้วยกลยุทธ์หั่นราคา หรือแข่งขันกันตัดราคา เพราะการท่องเที่ยวเป็นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นต่ำ สุดท้ายแล้วจะอยู่ที่ความพึงพอใจ”
แสดงเพิ่ม
