รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 857 ลุ้นผลประกอบการ Q1 ... ข่าวดีหรือข่าวร้าย ?

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 857 ลุ้นผลประกอบการ Q1 ... ข่าวดีหรือข่าวร้าย ?

รับชม 11 ครั้ง|
1
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
ลุ้นผลประกอบการ Q1... ข่าวดี หรือ ข่าวร้าย? เตรียมเข้าสู่ฤดูประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยกำลังหาปัจจัยใหม่เพื่อไปต่อ คุณสุวัฒน์ สินสาฎก รองกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) พูดถึงการคาดการณ์งบไตรมาสแรก และกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ซึ่ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะเติบโตโดดเด่นหากเทียบรายไตรมาส คือ “กลุ่มโรงกลั่น” หลังจากในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก เป็นผลมาจากการขาดทุนสต็อกน้ำมัน และค่าการกลั่นที่ต่ำ ดังนั้น ในไตรมาสนี้จึงน่าจะเห็นหุ้นทุกตัวในกลุ่ม ฟื้นตัวได้โดดเด่น รองลงมา คือ "กลุ่มโรงไฟฟ้า" เนื่องจากการปรับขึ้นของค่าไฟใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะที่ต้นทุนค่าก๊าซไม่ได้ปรับขึ้น ดังนั้น โรงไฟฟ้าหลายแห่งจะได้รับประโยชน์จากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น กลุ่มถัดมา คือ "กลุ่มพาณิชย์" ที่ภาวะการใช้จ่ายหลังเลือกตั้งจะดีขึ้น สังเกตจากสถิติที่ผ่านมาจะมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ และการเพิ่มขึ้นของราคาพืชผลทางการเกษตร ส่วนบิ๊กแคปอย่าง “กลุ่มธนาคาร” และ “กลุ่มโทรคมนาคม” คุณสุวัฒน์ประเมินว่างบจะยังไม่โดดเด่นหรือน่าสนใจนัก ขณะที่ “กลุ่มพลังงาน” มีหุ้นที่น่าจะได้รับความสนใจอย่าง PTTEP ที่กลับมาดูดี เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อกำไร มากกว่า PTT แล้วหุ้นกลุ่มไหน ที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน ? "กลุ่มท่องเที่ยว" ยังน่าจับตา เพราะมองว่าการฟื้นตัวของภาพการท่องเที่ยวยังไม่ดีนัก นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ได้กลับมาเต็มที่ แต่คุณสุวัฒน์เชื่อว่าหลังจากไตรมาสที่ 2 ไปแล้ว จะสามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งในตอนนี้อาจเป็นการหาจังหวะในการเข้าซื้อได้ การปรับ MSCI มีผลต่อการเข้ามาของเงินทุนมากน้อยแค่ไหน? คุณสุวัฒน์บอกว่าผลจากปัจจัยนี้ จะทำให้เราเริ่มเห็นกระแสเงินที่ไหลจากต่างประเทศเข้ามา เพราะการปรับ MSCI โดยการเปลี่ยนเกณฑ์ ด้วยการเพิ่ม NVDR เข้าไป ทำให้น้ำหนักของตลาดหุ้นไทย เพิ่มขึ้นจาก 2.5% เป็น 3% แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ จะมีหุ้นหลายๆ ตัวที่มีการเพิ่มน้ำหนักเข้าไปด้วย โดยหุ้นที่โดดเด่นจากปัจจัยนี้ อาทิ SCC, EGCO และ RATCH โดยเฉพาะ EGCO และ RATCH ถ้าย้อนดูในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หุ้นปรับขึ้นมามาก อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นจาก MSCI จะเป็นระยะสั้น หลังจากนั้นก็ต้องกลับมาสู่พื้นฐานของหุ้นว่ามีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร หุ้นไทยในสายตาต่างชาติยังมีเสน่ห์ ในมุมมองของฟินันเซียฯ เพราะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยนับเป็นประเทศใหญ่และมีไดนามิกที่สุด “การเมือง” กับตลาดหุ้นไทย คุณสุวัฒน์มองว่าหากรัฐบาลใหม่ มีเหตุการณ์ไม่สงบ มีประท้วง เรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นกลับมาอ่อนแอลงอีกรอบ แต่หากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคไหนก็ตาม มีเสถียรภาพ ตลาดหุ้นไทยจะดูดีขึ้น สะท้อนได้จากความเห็นของนักลงทุนสิงคโปร์ ฮ่องกง ที่เป็นนักลงทุนหลักของไทย ต่างพูดชัดเจนว่า หากไทยมีเสถียรภาพ ความน่าสนใจลงทุนจะกลับมาโดดเด่น ซึ่งไทยมีธีมลงทุนอย่างเช่น EEC, ความแข็งแกร่งเรื่องของพลังงาน การท่องเที่ยว และกลุ่มพาณิชย์ที่ดี มีความน่าสนใจ หุ้นอะไรน่าจับตา หลังการเลือกตั้ง? CPALL โดดเด่นมากที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ เพราะหลังการเลือกตั้ง การจับจ่าย ค่าแรงที่ปรับขึ้น จะมีผลอย่างมาก และตามมาด้วย BJC ด้วยลักษณะที่ใกล้เคียงกัน และยังมีกลุ่มห้างสรรพสินค้า ที่น่าสนใจรองๆ ลงมา ส่วน “กลุ่มโรงไฟฟ้า” เป็นกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติชื่นชอบ เพราะว่า : - ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง - มีการเปิดประมูลไฟฟ้าช่วงสิ้นปี 2562 - ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น / ต้นทุนก๊าซลดลง หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่น่าสนใจ คือ GPSC, GULF และ BGRIM และที่เพิ่มเติมเข้ามาในตอนนี้ ก็จะมี EGCO และ RATCH ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EGAT ด้วยโอกาสที่จะชนะประมูล ประกอบกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยสรุปแล้ว “กลุ่มโรงกลั่น” เป็นกลุ่มที่ลงมาแล้ว มีจังหวะน่าสนใจเข้าซื้อ และสามารถเลือกต่อยอดไปที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ที่มีโอกาสฟื้นตัวในครึ่งหลังปี ทำให้หุ้น AOT และ MINT ดูน่าสนใจ
แสดงเพิ่ม