รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 906 เจาะลึกการลงทุนครึ่งปีหลัง | CIMB Private Banking

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 906 เจาะลึกการลงทุนครึ่งปีหลัง | CIMB Private Banking

รับชม 3 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
ภาพการลงทุนครึ่งปีแรก กับอนาคตของครึ่งหลังของปี ในมุมมองของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คุณ วิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ เริ่มที่ครึ่งปีแรก เปิดมาต้นปี ภาพเปลี่ยนจากตลาดไม่ดี หุ้น และตราสารหนี้ โดยเทช่วงปลายปี 61 มาเป็นหุ้นบวกขึ้นมาแรง โดยเฉพาะ Nasdaq บวกขึ้นมากว่า 25% ในขณะที่ฝั่งจีน CSI300 บวกขึ้นมาประมาณ 20% ทำให้ภาพในช่วงครึ่งปีแรก เหมือนตลาดจะฟื้นกลับมาดี แต่ในครึ่งปีหลัง ทาง ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มองว่าภาพการลงทุน ควรจะเน้น Defensive 50% ยังให้น้ำหนักกับการลงทุนตราสารหนี้ ประเภท Investment Grade ใน สหรัฐ และยุโรปเป็นหลัก ส่วนหุ้นนั้น แนะนำ หุ้นปันผลสูง (High Dividend Stock) โดยคำแนะนำสำหรับคนที่มีหุ้นในพอร์ต เวลานี้ ทางคุณ วิริยะชัย มองว่า ช่วงนี้ มีโอกาส Take profit แนะนำให้ ล็อคกำไรบางส่วนไว้ก่อน เนื่องจากต้นปี หุ้นแรงบวกแรงกว่า 20% และด้วยความเสี่ยงที่ยังมี หากสังเกตุทางเทคนิคราคาได้ปรับขึ้นนำมาแล้ว แต่พื้นฐาน และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกน่าจะประกาศออกมาแย่กว่าคาดการณ์ "ถ้าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ประกาศออกมาไม่ดี แต่ราคาหุ้นนำไปก่อน อาจจะมีโอกาสที่หุ้นปรับฐาน (Correction)ได้ ตอนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ ไปให้น้ำหนักกับประเด็นการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดมาก" เสียงเตือนจาก Private Banking,ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เพราะปัจจัยที่ยังไม่จางหายไป..ครึ่งหลังของปี คือ "เฟด กับประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย" ที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง "ตอนนี้ ตลาดก็มีการ Price in ไปว่า น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ เรียกว่า ตลาดหุ้นเล่นเรื่องนี้นำหน้าไปแล้ว ...ขณะที่ "สงครามการค้า" ก็ยังไม่จบ เพียงแค่หยุดพักไปก่อน ซึ่งมีโอกาสที่ ทรัมป์ จะกลับมาเล่นเรื่องสงคราม การค้าได้ตลอด" ความเห็นของคุณ วิริยะชัย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย พอร์ตลงทุน สไตล์ Defensive ของทาง ซีไอเอ็มบี ไทย ให้สัดส่วนการลงทุนดังนี้: 50% อยู่ในตลาดตราสารหนี้ 35% อยู่ในหุ้น (ช่วงครึ่งปีแรก เราแนะนำ ถือหุ้น 45%) และ 15% อยู่ในสินทรัพย์ทางเลือก และถือเงินสดบางส่วน เงินที่ได้จากการทำกำไร (Take profit) ในพอร์ตหุ้น แนะนำให้พักไว้ที่ ตลาดเงิน (Money Market)ไว้ก่อน รอจังหวะที่หุ้นมีการปรับฐาน (Market Correction)อาจจะเข้าไปซื้อได้ในหุ้นกลุ่มที่ไม่แพง เช่น หุ้นในยุโรป และ ญี่ปุ่น ในตลาดยุโรป อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield)จ่ายอยู่ที่ 3% กว่าๆ (ถือว่าดีมาก) (ตลาดหุ้นไทย อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield)จ่ายอยู่ที่ 2% กว่าๆ สำหรับหุ้นสหรัฐนั้น มองว่า แพง หากเทียบกับตลาดอื่น หรือเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตของตัวเอง และหากมีอยากให้ทาง Private Banking CIMB ช่วยเหลือเรื่องการทำ Asset Allocation สามารถติดต่อได้ที่ 0 2626 7777 ด้วยความที่เป็น Regional Bank ที่ครอบคลุมแถบอาเซียน ทำให้มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ในการนำเสนอ อย่างการลงทุนหุ้น และตราสารหนี้ ต่างประเทศโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า.... การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์รูปดอลลาร์ ก็น่าจะได้ผลลัพธ์นน่าสนใจ
แสดงเพิ่ม