กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ร่วมกับสำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า จัดโครงการ CLMVT Plus Executive Program on New Economy 2019 ปีที่ 3
ตามที่รัฐบาลส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV และขยายสู่ระดับ ASEAN เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างนักธุรกิจและภาครัฐ ASEAN ภายใต้แนวคิด ASEAN Branding พร้อมนำเสนอการใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือสาคัญในการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ
คุณ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการบริหารสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ธีมใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ New Economy หรือเศรษฐกิจที่ทันสมัยเป็นอะไรที่เราต้องการสร้างบรรยากาศให้ประชาคมในอาเซียน
สามารถใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในการค้าขาย เพื่อจะไปต่อยอดสร้างความเติบโตให้กับเศรษฐกิจของอาเซียนให้เป็นรูปธรรมได้ แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะความเหลื่อมล้าในยุคดิจิทัลมีเยอะ ฉะนั้นผู้ที่มา Workshop ในหลักสูตรผู้บริหาร CLMVT Plus ก็จะได้นำเอาโจทย์ ความท้าทายต่างๆ กลับไปช่วยพัฒนาในประเทศของตัวเองและเชื่อมโยงกันในภูมิภาคให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ความแตกต่างครั้งนี้คือ เรา Upgrade จากแต่ก่อนที่เรามีแค่ CLMVT ที่มีประเทศ ลาว เขมร เมียนมา เวียดนาม และประเทศไทย แต่ครั้งนี้ได้รวม 10 ประเทศอาเซียน จึงเป็น CLMVT Plus และให้ความสำคัญ กับการนำเครื่องมือทันสมัยมาช่วยในการพัฒนา รวมถึงการเชิญวิทยากรระดับโลกมาให้ความรู้ที่มากขึ้น
โดยในปีนี้ ผู้ร่วมโครงการเป็นผู้บริหารระดับสูงจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสิ้น 69 ราย จากทั้งหมด 9 ประเทศ ซึ่งล้วนมาจากธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร ก่อสร้าง ความงาม เทคโนโลยีและบริการ
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการต่อยอดทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน งาน CLMVT Plus Executive Program on New Economy 2019 จะช่วยสร้างเครือข่ายมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์การทำงาน เพื่อนาไปพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมของบริษัท นำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับ ASEAN ได้อย่างแท้จริง
------------
อ่านข่าว คลิก http://bit.ly/33pOrIi
------------
ทันข่าว ก่อนใคร คลิก https://www.thunkhaochannel.com
ติดตามรายการ รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.15-10.30 น.
แสดงเพิ่ม
