ใครที่อยากจะพัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพในการเทรดหุ้นมากขึ้น ด้วยโปรแกรม Settrade Conditional Orderโปรแกรมนี้ ช่วยเรื่องของการส่งคำสั่ง แบบมีเงื่อนไข คือ เมื่อเงื่อนไขที่ตั้ง ..ถึงจุดที่กำหนดไว้ ระบบก็จะส่งคำสั่งซื้อ/ขาย ให้อัตโนมัติ ที่ตัวโปรแกรมนี้ ช่วยทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องมานั่งเฝ้าจอเทรด นับเป็นประโยชน์ในการช่วยจัดการกลยุทธ์การลงทุน และป้องกันความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้นซึ่งโปรแกรมนี้ เป็น ฟีเจอร์ ในโปรแกรมเทรดหุ้น ที่คุ้นหูกันว่า โปรแกรมสตรีมมิ่ง
รูปแบบของ Conditional Order มี 3 แบบด้วยกัน คือ
แบบที่ 1: Stop Order
แบบที่ 2: Trailing Stop
แบบที่ 3: Bracket Order
แบบที่ 1 :Stop Order คือ ให้ระบบส่งคำสั่งเมื่อหุ้นเคลื่อนไหวถึงจุดที่กำหนด ..การตั้งจุด ซื้อ/ขาย เมื่อราคาหุ้นวิ่งไปถึงจุดที่ตั้งไว้ในระบบ คำสั่งที่เราตั้ง ซื้อ/ขาย ไว้ ก็จะถูกส่งไปอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น เราถือหุ้น A แล้วเห็นแนวโน้มราคาลง เรากำหนดว่าเราขาดทุนสัก กี่บาท หรือ กี่เปอร์เซ็นต์ เราจะขาย Cut loss เราสามารถตั้งราคาขาย และให้ระบบสั่งขายอัตโนมัติ เมื่อราคาวิ่งลงไปแตะจุดนั้น
หรือ ในทางกลับกัน เราอาจจะตั้งขาย หุ้นที่ถืออยู่ เพื่อ Take Profit ก็ได้เช่นกัน หรือ ในกรณีที่ต้องการซื้อหุ้น แต่ไม่อยากเฝ้าหน้าจอ รอลุ้นราคา หลังจากเฝ้าดูทั้ง ผลประกอบการ และเทรนด์ราคามีแนวโน้มดี
เราอาจจะใช้โปรแกรม Stop Order ตั้งว่า เมื่อหุ้น A ราคาเพิ่มขึ้น 5 บาท หรือ 2 % ให้ระบบทำการซื้อหุ้นอัตโนมัติ
โดยคำสั่งนี้ ข้อดี คือ ไม่ต้องมาตั้ง วันต่อวัน เราสามารถเลือกให้คำสั่งมีผลกี่วันได้ ซึ่งคำสั่งนี้ จะคงอยู่ไปจนครบกำหนดที่ตั้งเอาไว้
สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าหน้าจอ
ส่วน แบบที่ 2 Trailing Stop แบบนี้ระบบก็ส่งคำสั่งให้อัตโนมัติเช่นกัน เมื่อ "ราคามีการกลับตัว" ถึงเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ซึ่งระบุเงื่อนไขเป็นส่วนต่างของราคา หรือเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุด/ต่ำสุดได้
เช่น เมื่อราคากลับตัวลง 10% จากราคา High (หรือ หน่วยเป็นบาท) ระบบจะขายอัตโนมัติ อย่างหุ้นในพอร์ต เราอาจจะ Let's profit run ไปเรื่อยๆ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยง เราอาจจะตั้ง Trailing Stop เพื่อ Take Profit ก่อน
ไม่ว่าจะเป็นการทำกำไร (Take Profit) หรือตัดขาดทุน (Cut Loss) ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ไม่ต้องตั้งคำสั่งใหม่ทุกวัน
และแบบที่ 3 Bracket Order เป็นการตั้ง 2 เงื่อนไข ภายในคำสั่งเดียว ตัวอย่าง เราตั้ง Stop Order ตั้งเมื่อหุ้นถึงเงื่อนไข ก็ส่งคำสั่งขาย แต่คำสั่ง Bracket Order คือ ถ้าหุ้นขึ้น หรือ ลง ให้ทำการขายได้
เช่น เราถือหุ้น ที่ราคาแกว่งตัวแรงมาก ต้นทุนอยู่ที่ 10 บาท เราอาจจะตั้งคำสั่ง Bracket Order ถ้าหุ้นนี้ ราคาวิ่งขึ้นไปเป็น 12 บาท ให้ทำการขายเพื่อ "Take Profit" แต่ถ้าราคาร่วงเหลือต่ำกว่า 8 บาท เราตั้งคำสั่งขาย เพื่อ " Stop Loss" ได้
ซึ่งคำสั่งจาก Conditional Order สามารถเก็บในระบบได้ไม่เกิน 120 วัน (4 เดือน)
ช่วยประหยัดเวลา (ไม่เสียเวลามาตั้งคำสั่ง ซื้อ/ขาย รายวัน)
นอกจากนี้ ผู้ลงทุน สาย TFEX ก็สามารถทำได้ ในแบบของ Stop Order (แต่ยังสามารถตั้งได้วันต่อวัน) ซึ่งตอนนี้ อยู่ในช่วงของการพัฒนาในรูปแบบอื่นๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน คาดว่าในปลายเดือนกันยายน น่าจะครบในทุกๆ รูปแบบ
สำหรับผู้ที่สนใจ และมีโปรแกรมเทรด สามารถติดต่อโบรกเกอร์ ให้เปิดสิทธิการใช้ฟีเจอร์นี้ เพื่อตั้งค่าซื้อ/ขายได้เอง ซึ่ง ฟีเจอร์ Conditional Order ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ในระบบ iOS และ Android
ส่วนใครที่อยากจะศึกษาเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก www.settrade.com/streaming
แสดงเพิ่ม
