ใครที่มีเงินเย็น ที่พร้อมลงทุน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้น ยังไง?
ทำอะไรดี ? เงินเย็นที่เรามีอยู่ จะสามารถทำงานแทนเราได้
ในโลกการลงทุนปัจจุบัน มีทางเลือกอะไรบ้าง?
แน่นอนว่า การเริ่มต้นที่ดีนั้น ควรจะเริ่มจาก "การวางแผนการเงิน"
คำแนะนำ แรกจาก คุณ พิกุล พิทยาอิสรกุล
ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล บมจ. ฟิลลิป (ประเทศไทย) เพราะนั้น เป็นการตรวจสุขภาพการเงิน
ว่าเรามีเงินเหลือ เพื่อนำมาลงทุน มากน้อย สั้น ยาว แค่ไหน?
จากนั้น ก้าวต่อไป คือ เราควรจะมาลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน?
เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่เราต้องการ
หลายคนมักจะละเลย "ความเสี่ยง" .. ซึ่งสำคัญยิ่งกว่า "ผลตอบแทน"
แต่สำหรับใครที่คิดว่า การลงทุนเป็นเรื่องยาก หรือ ไม่มีเวลาลงทุนเอง
ทางเลือกการลงทุนผ่าน นอกจากกองทุนรวมแล้ว ... เรามีอะไรให้เลือกอีกไหม?
แน่นอน เรายังมีอีกทางเลือก ที่เรียกกันว่า "กองทุนส่วนบุคคล" ที่มาตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
แต่อยากให้มืออาชีพมาช่วยดูแล
แล้วต่างจากกองทุนรวม .. ยังไง?
ผู้เชี่ยวชาญ จาก บมจ. ฟิลลิป อธิบายง่ายๆ ว่า กองทุนรวม ส่วนใหญ่ ผู้ลงทุนอาจจะเข้าถึงผู้จัดการกองทุนได้ยาก
เรียกว่า เป็น ตลาด Mass
แต่สำหรับใครที่มีเงินทุน (ก้อนโต.. หน่อย) อาจจะลองมองหา กองทุนส่วนบุคคล เป็นทางเลือกได้ เพราะข้อดี คือ
สามารถเข้าถึงผู้จัดการกองทุนได้ใกล้ชิด สามารถเลือกผู้จัดการกองทุนให้เหมาะสมกับนิสัยการลงทุนของเรา
เช่น เราชอบลงทุนแบบ ช้าแต่ชัวร์ (Conservative) หรือ เราสไตล์ กล้าได้กล้าเสีย (ลงทุน ..สายซิ่ง)
ซึ่งสามารถที่จะเลือกจากผู้จัดการกองทุนหลาย บลจ. ว่าสไตล์ลงทุน ..ตรงกันไหม
ไม่ใช่เราเป็น ลงทุน ..สายซิ่ง แต่ผู้จัดการกองทุนเป็นแนว ช้าแต่ชัวร์
อาจจะทำให้เรารู้สึกว่า ทำไม นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเลย แต่ด้วยสไตล์ของไม่เหมือน อาจจะมีกลยุทธ์ในอีกวิธีการหนึ่ง
ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจเรา ดังนั้น ควรจะเลือกผู้จัดการกองทุนให้สอดคล้องกับสไตล์ลงทุนของเรา
ยกตัวอย่าง กองทุนส่วนบุคคล ของ บมจ. ฟิลลิป เรามี 3 นโยบายหลัก คือ (อาจจะใช้ภาพประกอบเนื้อหา)
กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เหมาะกับสไตล์เสี่ยงน้อย วงเงินเริ่มต้น 1 ล้านบาท - รักษาเงินต้นได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
กองทุนหุ้นไทย เหมาะกับสไตล์รับความเสี่ยงปานกลาง วงเงินเริ่มต้น 1 ล้านบาท
กองทุนเวียดนาม เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว เริ่มต้น 3 ล้านบาท
ทำไมแนะนการลงทุนในเวียดนาม ในระยะยาว
ทางคุณ พิกุล เกริ่นว่า ทาง บมจ. ฟิลลิป เริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดเวียดนาม เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว
ที่มีความคล้ายกับเมืองไทย ย้อนหลังไป 10-15ปี ที่มีการเติบโต จากแรงหนุนของภาคการส่งออก
ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไปลงทุน ประชาชนในประเทศ มีกำลังซื้อมากขึ้น
เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นเวียดนามร้อนแรงมาก และเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่มารอบนึง
แต่ ในเวลานี้ ทาง บมจ. ฟิลลิป มองว่า ราคาเหมาะสม ในขณะที่ พื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนของเวียดนาม เรียกว่า ยังดี เติบโตได้ สม่ำเสมอ
สนใจสอบถาม หรือ ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถลงทุนในระยะยาวได้ ลองปรึกษา บมจ. ฟิลลิปได้
สำหรับใครที่มีเงินเย็น หรือ อยากเอาเวลาไปใช้ชีวิตตาม Passion ของเรา
การลงทุนที่ให้มืออาชีพดูแล ผ่าน กองทุนส่วนบุคคล ก็เป็นอีกทางเลือกที่ น่ามอง ...
แสดงเพิ่ม
