รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 939 ไตรมาสสุดท้ายเเล้ว ซื้อ LTF-RMF ตัวไหนดี ? | บล. ฟิลลิป

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 939 ไตรมาสสุดท้ายเเล้ว ซื้อ LTF-RMF ตัวไหนดี ? | บล. ฟิลลิป

รับชม 67 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
เริ่มต้นโค้งสุดท้ายในไตรมาสที่ 4 ส่งท้ายปี บรรยากาศลงทุนปัจจัยภายนอก กดดันค่อนข้างมาก กองทุน LTF -RMF กองทุนไหน ที่น่าสนใจทั้งผลตอบแทน และความเสี่ยง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยทั้ง 5 อันดับ กองทุนของ 1 SG-LTF (กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว) ของ ONEAM ติดอันดับอยู่บ่อยๆ ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงคุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาว ซึ่งการลงทุนระยะยาว โอกาสที่จะได้กองทุนดีๆ ก็จะมีสูงกว่า โดยนโยบายการลงทุน ส่วนใหญ่ ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ในรูปแบบของ Active Fund ถ้าดูในรอบ 1 ปี ก็จะเห็นว่ากองทุนส่วนใหญ่นั้นติดลบ ด้วยสภาพบรรยากาศการลงทุนปีนี้ ที่มีหลากหลายปัจจัยลบ คุณ สานุพงศ์ เน้นย้ำกับนักลงทุนด้วยว่า การตัดสินใจลงทุน ไม่ควรจะตัดสินเพียง ผลตอบแทนด้านเดียว เราต้องเข้าใจภาวะความผันผวนของตลาดด้วย ทำให้ ความเสี่ยง เป็นอีกตัวแปรที่สำคัญ ส่วนกองทุน RMF ที่ตอบโจทย์การลงทุนยาวๆ วิธีการเลือกจัดอันดับนั้น ทาง ฟิลลิป ให้เงื่อนไขโดยพิจารณาทั้งผลตอบแทน และความเสี่ยง โดยเน้นเฉพาะกองทุนหุ้นไทย Top5 RMF กองทุนหุ้นไทย ประจำเดือน ตุลาคม 2562 โดยกองทุนแนะนำ คือ T-LowBetaRMF (กองทุนเปิดธนชาต Low Beta เพื่อการเลี้ยงชีพ) ของ บลจ. ธนชาต มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนน้อยกว่าตลาด ผลตอบแทนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักที่ เงินปันผล (Dividend) ถือว่าเป็นกองทุนที่ความเสี่ยง และผลตอบแทนน่าสนใจ แม้ว่าปีนี้ ตลาดหุ้นผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่เม็ดเงินที่เข้า LTF ตั้งแต่ช่วง สิงหาคม ยังคงเพิ่มต่อเนื่อง (เหมือนทุกๆ ปี) เรียกว่า ทิ้งทวน สำหรับปีสุดท้าย (ปี 2562) สำหรับ การลงทุน LTF รูปแบบเดิม ทาง ฟิลลิป คาดว่า เม็ดเงินในโค้งสุดท้าย ไตรมาสนี้ น่าจะอยู่ที่ 20,000-30,000 ล้านบาท ต่อจากนี้ กองทุน LTF จะมีหน้าตา เปลี่ยนไปอย่างไร? คุณ สานุพงศ์ เล่าว่า เงื่อนไขของการการลงทุน (อย่างไม่เป็นทางการ) มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยน เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีมนุษย์เงินเดือน จาก (เดิม) 15% เป็น 30% (คาดการณ์) พร้อมกับเสนอปรับลดสิทธิลดหย่อนภาษี ผู้มีรายได้สูง จากเดิมไม่เกิน 500,000 บาท เหลือ 250,000 บาท เพื่อให้มนุษย์เงินเดือน รายได้ปานกลางได้รับประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น เป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางหันมาออมเงินระยะยาวเพิ่มขึ้น และกำหนดสัดส่วนการลงทุน 65% ให้ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Infrastructure Fund) กลุ่มหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) รวมถึงหุ้นเอสเอ็มอี ด้วย ภายใต้เงื่อนเวลา 7 ปีปฏิทิน (เหมือนเดิม) ต้องรอคอย กันต่อไปว่า บทสรุปจะเป็นตามคาดการณ์หรือไม่ ในปีหน้า 2563 สนใจสอบถามเรื่องการลงทุน กองทุน เพิ่มเติม ติดต่อ Phillip Fund SuperMart โทร 02-635-1718
แสดงเพิ่ม