ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์ พ่อน้องไอนส์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักวิธีไครออนิกส์ครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ สำหรับคนในแวดวงวิทยาศาตร์จะรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 1962 แล้วโดยถูกนำมาใช้ในการแช่เซลล์สัตว์ จนปัจจุบันถูกนำมาใช้ในการแช่อวัยวะของร่างกายมนุษย์ได้ เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการทางการแพทย์
ตอนนี้เซลส์ร่างกายส่วนอื่นของน้องไอนส์ได้รับการแช่แข็งในสารไนโตรเจนเหลวท่ามกลางอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ส่วนร่างกายของน้องไอนส์ได้รับการแช่แข็งเป็นอย่างดีเพื่อรอ "การรักษา" ที่อาจนำไปสู่การชุบชีวิตน้องไอนส์ในอนาคต โดยขณะนี้ร่างของน้องไอนส์อยู่ในภาวะจำศีล เก็บรักษาตามกระบวนการไครออนิกส์
พ่อน้องไอนส์กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้ตนเองตัดสินใจเก็บรักษาเซลล์สมองของน้องไอนส์ เชื่อว่าคนที่เป็นพ่อแม่ทุกคนหากมีโอกาสก็คงจะเลือกทำแบบนี้ ทุกคนหวังที่จะให้โอกาสกับลูกฟื้นคืนชีพกลับมาใช้ชีวิตได้ ซึ่งตนเองสัมผัสได้ว่า "ลูกตนนั้นสู้มาก อยากมีชีวิตตอนที่เห็นรอยยิ้มของลูกมีความสุขมาก" เลือกที่จะให้น้องไอนส์กลับมามีชีวิตแม่ตนเองจะไม่ได้อยู่เห็นหน้าลูกแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ตนได้ตั้งกองทุนวิจัยรหัสพันธุกรรมเพื่อรักษาโรคมะเร็งในเด็ก รพ.รามาธิบดี เพื่อเป็นทุนศึกษาวิจัยรักษาโรคมะเร็งทางสมองในเด็กโดยมีน้องไอนส์เป็นแรงผลักดันในครั้งนี้ ซึ่งยินดีที่จะเผยแพร่เรื่องราวและภาพของน้องไอนส์เพื่อเป็นแรงผลักดันในการสนับสนุนงานวิจัยในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้
แสดงเพิ่ม