ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง รพ.จุฬาลงกรณ์ อธิบายว่า ความจริงแล้วยาเออร์กอตนี้มีมาแต่โบราณแล้ว และเป็นยาแรงที่สุดในการรักษาอาการปวดไมเกรน เนื่องจากเมื่อเส้นเลือดขยาย สมองของคนที่เป็นไมเกรนจะรู้สึกถึงความปวดมากกว่าคนอื่นแน่นอน ซึ่งที่ระบุว่าให้รับประทาน 4-6 เม็ด นั้นหมายถึงบุคคลที่มีสภาพร่างกายปกติดี แต่หากผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมอง หัวใจ เส้นเลือด เมื่อทานยาเออร์กอตแก้ปวดไมเกรนเข้าไป จะทำให้ยาตัวอื่นที่ทานเข้าไปก่อนแสดงพิษออกมา โดยความเสี่ยงจากพิษของเออร์กอต ขึ้นอยู่กับตับของคนนั้นสามารถขับถ่ายยาทิ้งได้เร็วขนาดไหน ซึ่งเมื่อติดเชื้อแล้วแม้ว่าจะตัดแขน-ขาบริเวณที่ติดเชื้อทิ้ง ก็อาจจะมีอาการติดเชื้อต่อไปยังส่วนอื่น ๆ อีกได้
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ อธิบายต่อว่า ขณะที่ทานเออร์กอตไม่ควรทานยาอื่นร่วมด้วย แต่ทางที่ดีเมื่อมีอาการปวดแนะนำให้เลือกยาแก้ปวดตัวอื่น เนื่องจากเออร์กอตมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง และเออร์กอตไม่ใช่ยาป้องกันแต่เป็นยาเพื่อแก้อาการปวดฉับพลัน และการทานบ่อย ๆ จะทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง อีกอย่างคือไม่ควรซื้อยาชุด(ยาเถื่อน)มาทานเอง เนื่องจากในยาชุดนั้นมักมีเออร์กอตและยาตัวอื่นที่กระตุ้นเออร์กอตอยู่รวมด้วยกัน
แสดงเพิ่ม