รวบแล้วมือแทงบัณฑิตมศว.!! สารภาพ สารภาพตระเวณก่อเหตุคืนเดียว 4 ครั้ง ต้องการเงินไปใช้หนี้

รวบแล้วมือแทงบัณฑิตมศว.!! สารภาพ สารภาพตระเวณก่อเหตุคืนเดียว 4 ครั้ง ต้องการเงินไปใช้หนี้

รับชม 499 ครั้ง|
1
ไม่ชอบ
แชร์
topnewsthailand
835 วิดีโอ
-พลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สอบปากคำ นายกิตติกร วิกาหะ อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุแทง นายวศิน เหลืองแจ่ม อายุ 26 ปี เสียชีวิต เมื่อวานที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมได้ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์ 3 เครื่องของผู้เสียหาย เงินสดจำนวนหนึ่ง และ อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ -โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ในคืนวันเกิดเหตุได้ร่วมมือกับ นายพลชัย เรียงภวา เพื่อนที่รู้จักกันจากภายในเรือนจำ ลงมือชิงทรัพย์ผู้เสียหายทั้งหมด 4 ครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 22.07 น. ก่อเหตุกระชากกระเป๋าผู้เสียหายเป็นผู้หญิง บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน / เวลา 22.15 น. ได้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นายวศิน บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 ได้ทรัพย์สินเป็นไอโฟน 6 1เครื่อง / เวลา 01.30น. นายกิตติกร ได้เปลี่ยนเสื้อ ก่อนลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 9 ได้ทรัพย์สินโทรศัพท์ไอโฟน 5เอส 1 เครื่อง / เวลา 02.30น. ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง บริเวณหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ ถนนรามอินทรา ได้เงินสด 5 พันบาท - โดย นายกิตติกร รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ไม่มีเจตนาที่จะฆ่า นายวศิน แต่ผู้เสียหายขัดขืน จึงจำเป็นต้องลงมือทำร้ายและไม่คิดว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิต ยืนยันว่าขณะก่อเหตุไม่ได้เสพยาเสพติดหรือเมาสุรา โดยหลังจากก่อเหตุได้ แยกย้ายกับ นายพลชัย เพื่อหลบหนี พร้อมยอมรับว่าที่ก่อเหตุเพราะต้องการเงิน เนื่องจากขายผลไม้ขาดทุน เงินไม่พอใช้จ่ายและเป็นหนี้สิน -จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายกิตติกร เคยถูกดำเนินคดีและจำคุกมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 13 ปี เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและทำร้ายร่างกาย พ้นโทษเมื่อปลายปีที่ผ่านมา -ส่วนนายพลชัย ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจทราบเบาะแสแล้วและอยู่ระหว่างการติดตามตัว นอกจากนี้ พลตำรวจโทศานิตย์ ยังขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเวลากลางคืนขอให้ระมัดระวังรอบๆตัว และอย่าโชว์ทรัพย์สินหรือเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเดินทาง เพราะจะเป็นการทำให้เกิดการก่อเหตุจากกลุ่มมิจฉาชีพได้ โดยต่อจากนี้ จะกำชับให้ทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบจุดล่อแหลมเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนมากขึ้น
แสดงเพิ่ม