อสส.จ่อหมายจับ บอสอยู่วิทยา เบี้ยวฟังคำสั่งคดีซิ่งชนตร.จี้มอบตัว

อสส.จ่อหมายจับ บอสอยู่วิทยา เบี้ยวฟังคำสั่งคดีซิ่งชนตร.จี้มอบตัว

รับชม 46 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
newsplusth
4,971 วิดีโอ
เรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าอัยการไม่อนุญาตให้นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาขับรถเฟอร์รารี่ชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต และหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เลื่อนการส่งตัวฟ้องศาลในวันนี้ หลังส่งทนายความมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีออกไปก่อนโดยอ้างอ้างเหตุเร่งด่วนว่าติดการทำธุรกิจในประเทศต่างๆ ซึ่งอัยการ เห็นว่านายวรยุทธ ผู้ต้องหาได้ส่งทนายความขอเลื่อนคดีด้วยเหตุลักษณะเดียวกันนี้อย่างต่อเนื่องหลายครั้ง มีเจตนาประวิงคดี และหลบหนี โดยจะให้เวลาเข้าพบอัยการถึง 16.00 วันนี้ หากไม่มาพรุ่งนี้จะส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ขอศาลออกหมายจับ เพื่อติดตามตัวมาส่งฟ้องต่อศาลให้ทันกำหนดอายุความข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่สั่งฟ้อง ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน ปี 2570 ส่วนที่นายวรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรมในฉบับสุดท้ายที่ส่งถึงอัยการโดยนำหลักฐานในส่วนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยขอให้อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องตัวเอง มายื่นต่ออัยการนั้นพิจารณาแล้วไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานเดิม อัยการสูงสุดพิจารณาเเล้วมีคำสั่งให้ยุติเรื่องการร้องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ ผู้ต้องหา และหากนายวรยุทธ ผู้ต้องหาเดินทางมาพบอัยการ หรือ เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาได้ก็สามารถส่งฟ้องศาลได้ทันที เนื่องจากอัยการเตรียมสำนวนคำฟ้องเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ด้านนายอำนาจ โชติชัย (โช-ติ-ชัย) อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ระบุว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดไว้ชัดเจนว่าหากมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ตัวมาดำเนินคดีและหากอยู่ต่างประเทศก็จะต้องดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งตามขั้นตอนพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนต้องแจ้งพนักงานสอบสวนติดตามตัว โดยส่งคำขอไปยังศาลว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบหนีขอศาลออกหมายจับ และเมื่อศาลออกหมายจับแล้วจะต้องติดตามจับให้ก่อนคดีขาดอายุความ และหากผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ ตำรวจต้องสืบสวนให้ชัดเจนก่อนว่าผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ที่ใด และอยู่ในประเทศอังกฤษ ตามที่นำเสนอในข่าวหรือไม่ หากระบุที่อยู่ได้ชัดเจนแล้ว พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมคำสั่งฟ้องของอัยการ ประกอบการพิจารณาอัตราโทษตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ที่ระบุโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป สามารถเข้าสู่กระบวนการนี้ได้ ยกเว้นเฉพาะความผิดทางการเมืองและทหารเท่านั้น ส่วนประเทศอังกฤษ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขอื่นอีก อาทิ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พนักงานสอบสวนจึงต้องส่งเรื่องนี้ให้อัยการสำนักงานต่างประเทศ ส่งเรื่องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และหากเรื่องถึงประเทศอังกฤษ ทางประเทศอังกฤษ ก็จะมีการพิจารณาอีกว่า คดีนี้ขาดอายุความตาทกฎหมายไทยแล้วหรือไม่และข้อหาที่เกิดขึ้นต้องเป็นความผิดทางอาญามีกำหนดไว้ในประเทศอังกฤษด้วย และจะพิจารณาหมายจับของศาลไทย หากเข้าเงื่อนไขทางประเทศอังกฤษก็จะออกหมายจับและจับกุมทันที นายอำนาจ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมามีการประสานงานส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอังกฤษ และในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา มีการส่งเรื่องไปต่อเนื่อง และ ประเทศอังกฤษ ก็เคยขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อปี 2555 ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กรณีขับรถชนคนเสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ แล้วหลบหนีมาที่ประเทศไทยเช่นกัน แต่หากประเทศอังกฤษ ปฎิเสธคำขอของไทบด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็จะใช้ พระราชบัญญัติความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศขอให้ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นคดีใหม่โดยดำเนินคดีที่ประเทศอังกฤษ ได้เช่นกัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถกระทำได้กับทุกประเทศที่มีสนธิสัญญา แต่หากประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาก็จะใช้กฎหมายอื่นอย่างเต็มกำลังในการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี และหากนายวรยุทธ มีการขอสัญชาติอังกฤษ ก็จะทำให้เงื่อนไขการส่งตัวยากขึ้น แต่ก็สามารถดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ หากนายวรยุทธ หลบหนีจนคดีขาดอายุความ กระบวนการตามกฎหมายก็ไม่สามารถดำเนินการใดได้ หากครบกำหนดอายุความยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหามา จะถือเป็นความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรมและเป็นบทเรียนที่จะต้องแก้ไขในส่วนใดขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ไม่ถือเป็นความล้มเหลว และเป็นการร่วมมือกันปฎิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบไม่ใช่เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น สำหรับนายวรยุทธ อัยการสั่งฟ้องในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อายุความ 15 ปี และจะหมดวันที่ 3 กันยายน 2570 และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควร อายุความจะหมดวันที่ 3 กันยายน 2560 นี้ ส่วนข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ขาดอายุความไปแล้ว
แสดงเพิ่ม