จากกรณี “สามเณรปลื้ม” อายุ 17 ปี หายตัวไปนานกว่า 5 เดือน ก่อนจะพบว่าถูกฆาตกรรมโดย นายเด่นชัย ภูมินิยม หรือ “พระเด่น” ซึ่งยอมรับว่าลงมือตอนยังเป็นฆราวาส ก่อนบวชหนีความผิด
โดยนายเด่นรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าสามเณรปลื้ม ในขณะที่เป็นไวยาวัจกรของวัดวังตะวันตก โดยมี น.ส. ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว ภรรยาของตนเองเป็นผู้ช่วยเหลือ
สาเหตุที่ลงมือเพราะทรัพย์สินของ น.ส.บิว เป็นเงินสดจำนวน 50,000 บาท, สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น และพระเลี่ยมทองหนัก 1 บาท 1 องค์ ได้หายไป
ซึ่งตนเองเชื่อว่าสามเณรปลื้มเป็นคนขโมย จึงเรียกมาสอบถามที่ห้องเก็บสังฆภัณฑ์ ในคืนวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพไปขุดหลุมฝัง ส่วนสบง จีวร และผ้าห่มเปื้อนเลือด ได้ไปโยนทิ้งริมถนน
ต่อมาก็ทำโครงการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่บริเวณหลุมฝังศพ ให้เป็นสวนหย่อมพักผ่อน โดยเทพื้นซีเมนต์ก่อฐาน และนำพระพุทธชินราชมาประดิษฐาน หลังจากนั้นตนเองก็บวชเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา
ด้านพระภิกษุอีกรูปรับสารภาพว่า อยู่ในเหตุการณ์ที่สามเณรปลื้มถูกพระเด่นและนายสุริยา กุศลสุข หรือสามเณรสุริยา ทำร้ายทุบตี รวมถึงช่วยเช็ดล้างเลือดภายในห้องที่เกิดเหตุ และขุดหลุมฝังศพสามเณรปลื้ม
แต่หลังจากนั้นวิญญาณสามเณรปลื้ม ได้คอยตามอาละวาดหลอกหลอน จนแทบเป็นบ้า และวิญญาณยังข่มขู่บังคับให้มาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจ จนเรื่องราวถูกเปิดเผย
ส่วน น.ส.บิว ภรรยาของพระเด่น ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่จากการสืบสวนพบว่า น.ส.บิว คือคนบงการ สั่งให้พระเด่นและสามเณรสุริยา เตะ ต่อย ทุบตี สามเณรปลื้ม เพื่อให้รับสารภาพ และนำเงิน รวมทั้งสร้อยคอทองคำที่ขโมยไปมาคืน
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ได้นำตัว อดีตพระเด่นชัย และ อดีตสามเณรสุริยา 2 ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำดอกไม้มาไหว้ขอขมาผู้ตาย ก่อนจะพาตัวไปคุมขังต่อไป
หลังจากนั้น ได้นำเอารถรถแบ็คโฮมาทุบซีเมนต์ และขุดดินบริเวณจุดฝังศพสามเณรปลื้ม ก่อนที่จะให้หน่วยกู้ภัยทำการขุดต่อ จนพบศพที่ถูกฝังลึกจากพื้นประมาณ 1 เมตร ถูกหุ้มด้วยถุงดำ สบง และเสื่ออีกหนึ่งผืน ก่อนจะมีการนำปูนเททับอีก 1 รอบ
แสดงเพิ่ม
