ตร.ยังไม่ดำเนินคดี “แม่ผูกคอลูก” เพื่ออัดคลิปประชดสามี ด้าน พม. อนุญาตให้ดูแลลูกต่อได้

ตร.ยังไม่ดำเนินคดี “แม่ผูกคอลูก” เพื่ออัดคลิปประชดสามี ด้าน พม. อนุญาตให้ดูแลลูกต่อได้

รับชม 629 ครั้ง|
4
ไม่ชอบ
แชร์
morata2017
3,194 วิดีโอ
จากกรณีคลิปสุดสะเทือนใจ น.ส.นฤมล อายุ 28 ปี ผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ในอาการสติแตก จับลูกชายวัย 1 ขวบ 10 เดือน ใช้เชือกผูกคอแล้วใช้มือดึง เพื่อถ่ายคลิป พร้อมขู่สามีว่าจะฆ่าลูกให้ตาย ต่อมา สน.ฉลองกรุง เร่งไปให้การช่วยเหลือ และพบว่าเหตุการณ์สงบลงแล้ว แต่ น.ส.นฤมล ยังคงร้องให้ฟูมฟาย จึงเชิญตัวมายังสถานีตำรวจเพื่อระงับสติอารมณ์ พร้อมลูกชายและพี่สาว โดยผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตึกดังกล่าวเล่าว่า น.ส.นฤมล พักอยู่กับสามีและลูกอีก 2 คน ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่ตึกนี้ได้เพียง 3 เดือน เด็กที่อยู่ในคลิปเป็นลูกชาย ส่วนลูกสาวอีกคน แม่ของ น.ส.นฤมล ได้มารับไปอยู่ด้วยเมื่อช่วงเช้า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเห็นว่าทำรุนแรงขนาดนี้ จะตีบ้างก็ตอนที่เด็กซนเท่านั้น ด้าน น.ส.นฤมล เปิดเผยว่าตนได้อัดคลิปวิดีโอเพื่อจะส่งต่อไปให้สามี เนื่องจากเครียดจากการทำงาน ซึ่งตนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ช่วงนี้ขายของได้น้อย ประกอบกับน้อยใจที่สามีไม่สนใจ ทำแต่งาน ไม่สนใจครอบครัว ซึ่งวันนี้นัดกับสามีจะให้พาไปซื้อของ แต่สามีบอกควงเวรให้เพื่อน ลางานไม่ได้ และตนกลัวว่าสามีจะไปมีหญิงอื่น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูก และเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนแก่ชีวิต ที่ทำลงไปเมื่อเห็นลูกเจ็บ ตัวเองก็เจ็บเช่นกัน พร้อมวอนสังคมหยุดต่อว่า ด่าทอ และข่มขู่ เพราะสำนึกในสิ่งที่ทำแล้ว ขณะที่ พ.ต.ต.สามารถ กลิ่นเกล้า สารวัตร (สอบสวน) สน.ฉลองกรุง เปิดเผยว่าเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับ น.ส.นฤมล เนื่องจากเป็นเรื่องความไม่เข้าใจในครอบครัว และทางสามีก็ไม่ได้มีการแจ้งความเอาเรื่อง หากมีการตั้งข้อหาที่รุนแรง ก็จะมีปัญหาตามมาอีก ถ้าแม่ต้องติดคุก แล้วลูกใครจะดูแล หากจะมีการแจ้งข้อหาก็เป็นเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ไม่เป็นอันตรายแก่กาย ส่วนนายปรีชา โชคลาภ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ. เพื่อหาดูว่ามีการบาดเจ็บที่ใดบ้าง แต่ในเบื้องต้นเท่าที่ดูตามร่างกาย ไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลที่เป็นอันตรายใด ๆ หลังจากนั้นก็จะเชิญคนในครอบครัวมาพบสหวิชาชีพ รพ.รามาฯ เพื่อพูดคุย พร้องลงพื้นที่ไปดูสภาพความเป็นอยู่ ว่ามีความเดือดร้อนในเรื่องใดบ้าง ในส่วนของเรื่องการดูแลเด็ก ได้ให้ทาง น.ส.นฤมล แม่เด็กเป็นผู้ดูแลต่อไป โดยได้ให้พี่สาวและแม่ น.ส.นฤมล เป็นคนช่วยกันดูแลด้วย เนื่องจากเห็นว่าทางแม่เด็กไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายลูกตัวเอง ให้ถึงแก่ความตายจริงๆ
แสดงเพิ่ม