สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) นอกจากจะทำหน้าที่ในการกำหนดทิศทางและวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ให้มีความชัดเจนแล้ว ยังได้มีการดำเนินการในระดับพื้นที่อีกหลายๆ ด้าน ดังนี้
ในด้านเศรษฐกิจ
ทาง สดช. ได้มีการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนให้เป็นศูนย์ดิจิทัลชุมชน
การสนับสนุนผลักดันให้ e-commerce เกิดขึ้นและเติบโตอย่างเข้มแข็ม
การสร้างวิทยากรแกนนำแล้ว 600 คน จากศูนย์ดิจิทัลชุมชน 300 แห่ง
ในด้านสังคม
ได้มีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข ในการพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine ระหว่าง รพ.อุ้มผาง กับ รพ.แม่สอด
นอกจากนั้นยังได้มีการจัดโครงการ Smart Health ID นำร่อง ในโรงพยาบาล 4 แห่ง
การจัดทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบต่อสังคม หรือ Digital Literacy
นอกจากนี้ สดช. ยังได้ทำหน้าที่กำกับดูแลการติดตั้งโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ภายใต้โครงการ เน็ตประชารัฐ การติดตั้งโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการ Phuket Smart City
สำหรับในปี 2561 ที่กำลังจะมาถึง สดช. ได้สานต่อโครงการต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข และเศรษฐกิจ
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ในด้านการศึกษา จะมีหลักสูตรเรื่อง Digital Literacy และ Internet Digital Literacy เข้าไปในระบบของระดับประถม มัธยม แล้วก็การศึกษานอกโรงเรียน”
“ส่วนด้านสาธารณสุข มีการร่วมมือทั้งกระทรวงสาธารณสุข ทั้งสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ คือเรื่องของ National Health ID ซึ่งจะสำเร็จภายในสิ้นปี 2561”
นอกจากนี้ยังมี Digital GDP อันเป็นตัวเลขแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับดิจิทัลในภาคส่วนต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและกำหนดนโยบาย
และด้วยการผลักดันของ สดช. และกระทรวงการต่างประเทศนะครับ ทำให้ในปีหน้านี้ประเทศไทยของเรา จะได้มีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการดิจิทัลขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD) ซึ่งจะทำให้ไทยของเรานั้นเข้าถึงข้อมูลในเรื่องนี้ในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
แสดงเพิ่ม