2018 ..อีกปีแห่งการลงทุน
คุณวิน พรหมแพทย์แห่ง บลจ. CIMB PRINCIPAL มีมุมมองต่อการลงทุน ว่าตลาดหุ้นปี 2017 นั้นดีทั่วโลกไทยจึงได้อานิสงส์ไปด้วย ย้อนดูสักนิด พบว่าปี 2017 ดัชนี MSCI World ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21% โดยรวมขึ้นทั่วโลก แต่ก็จะมีขึ้นเยอะขึ้นน้อย ซึ่ง TOP3 ของหุ้นที่ perform เจ๋งที่สุดปีที่แล้วพบว่า อันดับ 1 คือ อาร์เจนติน่า โต 77% อันดับ 2 คือจีน โต 52% และอันดับ 3 คือเวียดนาม โต 46%
มาดูหุ้นสหรัฐ โตเช่นกัน นำโดยหุ้นเทคโนโลยีและหุ้น Large Cap โดยดัชนีดาวโจนส์ขึ้น 25% แนสแดกขึ้น 28%
สิ่งที่เราจะต้องกลับมาทบทวนปี 2018 ว่า PE ระดับปัจจุบันแพงไปแล้วหรือยัง มองว่าหุ้นโลกแนะยังต้องถือต่อไปแต่เปลี่ยนแนวถือ แนะหุ้น smart beta คือ เวลาตลาดขึ้นเราขึ้นด้วย แต่เวลาหุ้นลง ลงจะลงน้อยกว่าตลาด โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกดูหุ้นรายตัวที่ความผันผวนน้อยกว่าตลาด เช่น เวลาหุ้นขึ้น 100 หุ้นตัวนี้ขึ้น 70 แต่เวลาหุ้นลง 100 หุ้นตัวนี้จะลงแค่ 50 เป็นต้น นี่คือหลักคิดในการสร้างกองทุนที่ขาขึ้นก็ดีไปขาลงก็ลงน้อยหน่อย
หุ้นไทย PE ปัจจุบันอยู่ประมาณ 15-16 เท่า คำถามว่าแพงมั้ย ก็ค่อนไปทางแพงเทียบกับอดีต และหุ้นที่ขึ้นมารอบนี้ขับเคลื่อนด้วยหุ้นตัวใหญ่ๆ อย่างหุ้นพลังงาน ที่ขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
ปีนี้มองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังโตต่อได้ แนะนักลงทุนปรับพอร์ต หุ้นตัวใดขึ้นมาเยอะแล้วแนะนำขายทำกำไร
สำหรับปี 2018 ผลจากการเลือกหุ้นรายตัวยังคงทำให้ sector ที่ชอบไม่เปลี่ยนมากนัก โดยยังคงเน้นหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศ การท่องเที่ยว โรงพยาบาล และสาธารณูปโภค เช่นโรงไฟฟ้าเป็นต้น
เมื่อถามถึงโอกาสลงทุนในตลาดเกิดใหม่ คุณวินบอก EM (Emerging Market) น่าสนใจมากๆ ปีที่แล้วออกออกกองเวียดนาม ภายใน 2-3 เดือนขึ้นมากว่า 13-14% แล้วปีนี้ล่ะ เวียดนามไปต่อไหม ก็มองว่าไปต่อ เพราะพื้นฐานแข็งแกร่งมาก เศรษฐกิจโตปีละ 6 ปลายๆ ส่งออกโต FDI ดี และเป็นประเทศมุ่งมั่นจะเข้า MSCI Emerging Market ให้ได้ เหล่านี้คือปัจจัยบวกให้หนุน fund flow เข้าประเทศภายใน 2 ปีข้างหน้า
แล้วหุ้นเวียดนาม upside จำกัดหรือยัง ก็ต้องเฟ้นหากันล่ะ ว่าหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลางตัวไหน PE ยังไม่สูง ซึ่งผู้จัดการกองทุนวางแผน visit เวียดนามมากขึ้นอีกเพื่อเลือกหาหุ้นขนาดกลาง ราคาไม่แพงเข้ามาหนุนพอร์ต
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม 02 686 9595
แสดงเพิ่ม
