รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 767 จับจังหวะลงทุนหุ้น "อินเดีย" | KTAM

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 767 จับจังหวะลงทุนหุ้น "อินเดีย" | KTAM

รับชม 54 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
บลจ. กรุงไทย มองว่า อินเดีย เป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนมากจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น อย่าง IMF เอง ก็มองว่าอินเดียจะเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่โตได้มากที่สุดในโลก ในปีนี้ ที่ 7.3% และปีหน้า 7.5% ไตรมาสแรกปีนี้ก็โตแลเว 7.7% มากกว่าจีนด้วย พื้นฐานของอินเดีย เป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก ซึ่งก็แปลว่าอินเดียจะเป็นตลาดการบริโภคขนาดใหญ่ ทำให้อินเดียนั้นนั้นมีภูมิคุ้มกันต่อปัจจัยภายนอกที่ไม่ดี อย่างเช่นสงครามการค้า เพราะสามารถพึ่งพาตลาดในประเทศชดเชยการค้าต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ประชากรอินเดีย ก็เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เป็นกำลังแรงงานที่ดี มีทักษะ มีการศึกษา เช่นเรื่องวิศวกรรม ไอที เป็นต้น นอกจากนี้ อินเดียยังเป็นประเทศที่มีชนบทอีกมาก ถามว่าดีอย่างไร ก็คือชนบทเหล่านี้จะทยอยกลายเป็นเมืองมากขึ้นในอนาคต ปัจจุบัน คนอินเดียกว่า 70% อยู่ในชนบท หากชนบทเหล่านี้เจริญขึ้นเป็นเมือง ก็แปลว่าคนจำนวนมากจะมีรายได้และกำละงซื้อที่มากขึ้น อีกประการคือเรื่องของการเงิน การเงินในอินเดียทุกวันนี้มีความเป็นสังคมไร้เงินสดหรือ cashless society สูง การทำธุรกรรมทางการเงินทำได้ง่ายผ่านมือถือ คล้ายกับจีนที่ทำได้หมด มีเงินฝาก เงินกู้ ซื้อขายสินค้าได้หมด โดยสรุปก็คืออินเดียมีดีทั้งคนเยอะ คนมีคุณภาพ เป็นตลาดที่ใหญ่ สังคมกำลังเติบโตรายได้เพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีทางการเงินเอื้ออำนวยนั่นเอง แล้วตลาดหุ้นอินเดียดีอย่างไร? เหตุผลสำคัญที่สุดคืออัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนอินเดียเพิ่มขึ้นมาก ตามเศรษฐกิจอินเดีย ทำให้คนสนใจเข้ามาลงทุนมาก ตลาดหุ้นขึ้นมาเยอะมาก แต่ปีนี้อาจผันผวนบ้าง เพราะราคาน้ำมันแพง อินเดียเป็นประเทศที่อ่อนไหวกับราคาน้ำมัน แต่ไม่ได้ทำให้ภาพใหญ่ของอินเดียเสียไป คือในอนาคตการเติบโตยังชัดเจน และการที่ตลาดลดลง ก็เป็นโอกาสที่ดี กองทุนของ บลจ. กรุงไทยที่ไปลงทุนอินเดีย คือกอง KT-INDIA ซึ่งไปลงทุนในกองหลักคือ Invesco India Equity Fund เป็นกองทุนที่เชี่ยวชาญตลาดอินเดีย ผู้จัดการกองทุนก็เป็นคนอินเดีย เข้าใจเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอินเดียเป็นอย่างดี ลงทุนแบบ bottom up คือเลือกหุ้นรายตัว และเลือกหุ้นที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นที่จดทะเบียนสนตลาดอินเดีย แต่ต้องทำธุรกิจในอินเดีย กองนี้ มีหุ้นในกลุ่มการเงินค่อนข้างมาก เช่น HDFC Bank เป็นธนาคารเอกชนเบอร์ 1 ของตลาด อีกตัวคือ Chola Mandalam เป็น non bank ที่เก่งเรื่องการปล่อยกู้มากเพราะเข้าถึงแทบทุกพื้นที่ เข้าไปปล่อยกู้กันถึงในทุ่งนา ทำให้ได้ดอกเบี้ยที่ดี หรือออย่างบริษัท Balkrihna ก็ทำยางรถยนต์ในภาคการเกษตร-เหมืองแร่ หรือบริษัททำรถยนต์อย่าง Maruti Suzuki ก็เป็นอีกบริษัทที่น่าสนใจ ผลตอบแทนย้อนหลัง กองทุนนี้ตั้งมา 2 ปี 5 เดือน ผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 19.39% ต่อปี ชนะดัชนีอ้างอิงที่ 14.27% ต่อปีมากทีเดียว โดยกองทุนนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความผันผวนได้ รวมถึงเป็นผู้ลงทุนระยะยาว หากสนใจติดต่อได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร 026866100 กด 9 หรือที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาและผู้สนับสนุนการขายกว่า 50 แห่ง
แสดงเพิ่ม