รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 720 หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ ลงทุนอย่างไร | AIRA

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 720 หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ ลงทุนอย่างไร | AIRA

รับชม 38 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
"หุ้นไทยมีโอกาสลงไปเคลื่อนไหวทดสอบ 1760 จุด อาจผันผวนได้ในระยะสั้นจากความกังวลเรื่องภาวะการค้าโลก แต่เรายังชอบหุ้นธนาคารใหญ่อย่าง BBL และ KTB" AIRA ประเมินภาพดัชนีสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,770 ถึง 1,820 จุด โดยประเมินว่า ตลาดยังอยู่ในโหมด Cautious โดยเป็นผลจาก - ระดับการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารชาติหลักๆ โดยเฉพาะสหรัฐ ที่มีแนวโน้มผ่อนปรนน้อยลงตามลำดับ โดยการประชุม FOMC ในช่วง 1-2 พ.ค. ที่ผ่านมา แม้จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระดับ 1.50-1.75% ตามที่คาดการณ์กันไว้ แต่ถ้อยแถลงที่ออกมา สะท้อนโอกาสที่มากขึ้นในการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย. นี้ โดย FED มองว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2% (PCE เดือน มี.ค. +1.9%, ก.พ. +1.6%) ภาวะการจ้างงานมีความแข็งแกร่ง และการเติบโตของเศรษฐกิจที่มากเพียงพอให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ในภาพรวมของสภาพคล่องทั่วโลกยังไม่ได้หดตัวอย่างทันทีทันใด โดยล่าสุดทางฝั่งของ BOJ ได้ตัดสินใจยกเลิกการกำหนดช่วงเวลาการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2562 และ BOJ ได้เลื่อนการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อดังกล่าวมาแล้วถึง 6 ครั้ง ทำให้คาดหวังได้ว่า BOJ จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไปอีกระยะ - ด้านการเมืองระหว่างประเทศ ที่จะร้อนแรงขึ้นในฝั่งตะวันออกกลาง โดยเรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ ในวันที่ 12 พ.ค. นี้ ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จะไม่ต่ออายุข้อตกลงการผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ที่แลกกับการที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่ล่าสุด อิสารเอลได้แสดงหลักฐานว่า อิหร่านกำลังดำเนินการโครงการลับเพื่อสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ประกอบกับการที่ในช่วงหลังอิหร่านเข้าไปมีบทบาททางทหารอย่างชัดเจนในซีเรีย โดยเข้ากับฝั่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐ - ด้านการเมืองในประเทศ ต้องจับตา ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีกำหนดการณ์ 23 พ.ค. นี้ นัดชี้ขาดร่าง พรป. ว่าประเด็น สว.และ สส. ขัด รัฐธรรมนูญ หรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปได้ด้วยดี น่าจะประกาศวันเลือกตั้งได้ในช่วงกลางปี - ด้านเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในโหมดฟื้นตัว โดยล่าสุดยอดการจัดเก็บภาษีที่สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีรถยนต์ ในช่วง ต.ค. 60 – ม.ค. 61 สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3.5% และ 9.4% ตามลำดับ - ผลประกอบการในปีนี้ของ บ. จดทะเบียน ในแง่รายไตรมาสที่ประเมินกันว่าจะยังไม่เร่งตัวนักใน 1Q61 แต่น่าจะไปเร่งตัวใน 2H61 (Consensus ประเมิน EPS ของตลาดใน 1Q61, 2Q61 และ 3Q61 ที่ 26.25, 26.98 และ 27.96 บาท ตามลำดับบ) ขณะที่ภาค Real Sector ที่ทยอยประกาศออกมาแล้วนั้นสอดคล้องกัน คือไม่ดีไปกว่าคาดนัก ซึ่งเรามองว่าภาพนี้จะยังคงดำเนินไปในช่วงที่เหลือของฤดูกาลประกาศผลประกอบการ คือช่วงนี้ไปจนถึง 15 พ.ค. กลยุทธ์แนะนำ นอกเหนือจากหุ้นกลุ่มพลังงาน (แนะนำ PTT มูลค่าเหมาะสมที่ 62.75 บาท) ที่จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงจากเหตุผลการเมืองระหว่างประเทศดังข้างต้น ครั้งนี้เรายังนำเสนอ AOT (มูลค่าเหมาะสมที่ 83 บาท) โดยเรามองว่า - ยังเติบโตในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าได้ แม้การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ จะล่าช้าไปบ้าง (คาดทยอยแล้วเสร็จปี’63 - 65) โดยเป็นผลจากการปรับตัวของสายการบิน มาใช้เครื่องบินขนาดใหญ่มากขึ้น รวมถึงการใช้ประโยชน์จาก Slot ในช่วง Off-Peak เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับ 1Q61 (ม.ค. - มี.ค.) จำนวนเที่ยวบิน +5% แต่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 8% - Theme การเติบโตของนักท่องเที่ยวจีน (สัดส่วนราว 30% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย) ยังคง Solid ในระยาว จากการเติบโตของชนชั้นกลางในจีน หนุนให้ชาวจีนนิยมท่องเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสอีกมาก เมื่อพิจารณาจากชาวจีนที่มี Passport มีสัดส่วนต่ำเพียง 8.9% ของประชากร และล่าสุดไทยขยับขึ้นเป็นปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของชาวจีน - แม้ในระยะสั้นสนามบินหลักอยู่ในภาวะเต็มกำลังการให้บริการ แต่จากข้อสังเกตในช่วงลักษณะดังกล่าว เช่น ช่วงก่อนเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ AOT จะมีความสามารถในการทำกำไรสูง ทั้งในแง่ Operation Margin และ ROA - เชิง Valuation แม้จะตึงไปบ้าง แต่ในระยะยาวหากพิจารณาถึงประสิทธิภาพของทรัพย์สิน/เงินลงทุน ที่จะเพิ่มขึ้นได้ จาก (1) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา) และ (2) แผนการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาค ที่มีภาระการลงทุนต่ำ คาดช่วยลดความแออัดของสนามบินหลักไปได้ คาดทำให้ตลาด Re-Rating ขึ้นได้ต่อ เราประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 83.00 บาท
แสดงเพิ่ม