รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 712 Trade War สงครามการค้าโลก | CPAM

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 5 EP 712 Trade War สงครามการค้าโลก | CPAM

รับชม 3 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
บลจ. CIMB PRINCIPAL มองว่าเรื่องสงครามการค้าส่งผลกับตลาดมาก ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายจากทางฝั่งสหรัฐที่ทรัมป์ออกมาพูดอยู่เรื่อยๆว่าจะขึ้นภาษีการนำเข้าในสินค้าประเภทต่างๆ หรือกังวลว่าจีนจะออกมาตอบโต้ จนลุกลามบานปลายเป็นสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบ เราจึงเห็นตลาดค่อนข้างจะแกว่งมาทีเดียว เพราะเป็นผลลบต่อ Sentiment การลงทุนในระยะสั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ นั้นประกาศนโยบาย America First มาตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้ง พอมาถึงตอนนี้ ก็คงเห็นว่าในแต่ละปี อเมริกาขาดดุลการค้ากับจีนเยอะมาก ประมาณปีละ 3 แสนล้านดอลลาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เองก็คงอยากแก้ไขในเรื่องนี้ จึงเริ่มจากการประกาศปรับขึ้นภาษีการนำเข้าเหล็กก่อน ตามมาด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้าต่างๆ1300 รายการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนจีนก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีบ้าง แต่ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ 106 รายการเท่านั้น แต่มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์เท่ากัน แต่ทั้งนี้ก็สร้างความกังวลให้กับตลาดเช่นกัน เพราะอเมริกามีแผนจะขยับการขึ้นภาษีไปเป็นวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ หากดูในรายละเอียด การที่ทรัมป์ขึ้นภาษีเหล็กก่อน ก็น่าสังเกตุ เพราะอุตสาหกรรมเหล็กนั้นเป็นอุตสาหกรรมที่เป็น Sunset หรือเป็นขาลง อเมริกาเคยจ้างงานในอุตสาหกรรมนี้มากถึงหลายแสนคน แต่ปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 9 หมื่นคน คนก็สงสัยว่าจะคุ้มหรือไม่ที่จะมาปกป้องอุตสาหกรรมนี้ เพราะอเมริกามีแรงงาน130 ล้านคน การมาปกป้องอุตสาหกรรมที่จ้างแรงงานแค่ 9 หมื่นคน และเหล็กคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าแค่ 2 % ของการนำเข้าทั้งหมด จึงอาจได้ไม่คุ้มเสีย แต่ในทางกลับกัน จีนก็ตอบโต้สหรัฐอย่างชาญฉลาด คือจำกัดสินค้าแค่ 106 รายการ แต่เป็นรายการสำคัญ เช่นสินค้าเกษตร ถั่วเหลือ เครื่องบิน รถยนต์ ซึ่งสหรัฐเดือดร้อนกว่า ยกตัวอย่างเช่น โบอิ้ง จ้างคน 150,000 คน ขณะที่จีนนำเข้าเครื่องบินปีละ 300 ลำจากโบอิ้ง หรือทาง GM ขายรถยนต์ให้จีนปีละ 3.9 ล้านคันเยอะกว่าที่ขายอเมริกาเองด้วยซ้ำ แบบนี้ อเมริกาจะคุ้มไหม ที่เอาอุตสาหกรรมเหล็กหรืออะไรที่สำคัญน้อยกว่า ไปแลกกับเครื่องบินหรือรถยนต์แบบนี้ สงครามการค้านั้นกระทบเศรษฐกิจในภาพรวมแน่ โดยการค้าโลกนั้นเติบโตมาตลอดโดยเฉพาะตั้งแต่จีนเข้า WTO ซึ่งทาง IMF ก็ออกมาประเมินว่า หากมีการขึ้นภาษีการค้า 10% จะทำให้การค้าโลกหายไป 1% และ GDP โลกหายไป 0.5% เป็นต้น ซึ่งเยอะมากหากคิดออกมาเป็นมูลค่า และอาจทำให้เศรษฐกิจโลกสะดุดได้ อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าสุดท้าย ทุกอย่างจะกลับมาที่โต๊ะเจรจา คือทั้งจีนหรืออเมริกา ต่างไม่ได้ประโยชน์อะไรจากสงครามการค้านี้ อเมริกาโตต่อเนื่องมา 7-8 ปีแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เองก็คงไม่อยากให้สะดุด จีนเองกำลังโตช้าลง ก็อยากประคองตัวให้ค่อยๆโตช้าลง ไม่รวดเร็วเกินไป เพราะฉะนั้นสุดท้ายน่าจะเจรจา จีนน่าจะยอมแลกอะไรบางอย่างให้เกินดุลสหรัฐน้อยลงเป็นต้น ส่วนเรื่องการส่งออกของบ้านเรา จะถูกกระทบหรือไม่ อันนี้แน่นอนว่าโดนกระทบแน่หากมีสงครามการค้า แต่ข้อดีคือเราค่อนข้างมีตลาดส่งออกที่หลากหลาย ไม่ได้พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่ง ส่วนทางด้านตลาดหุ้นเอง ที่ผ่านมาขึ้นเยอะ ปีนี้จึงอ่อนไหวกับข่าวร้ายมากเป็นพิเศษ มีข่าวร้ายที ตลาดก็ผันผวนมาก แต่สนระยะยาวเรายังเชื่อว่าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น สงครามการค้าเต็มรูปแบบเราเชื่อว่าจะไม่เกิด ทั้งสองประเทศน่าจะเจรจากัน เพราะฉะนั้นหากระยะสั้น ตลาดผันผวนจึงน่าจะเป็นจังหวะในการเข้าไปลงทุน ผลกำไรของตลาดหุ้นแนวโน้มยังดีอยู่ ทั้งในสหรัฐหรือในประเทศไทย กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ เรายังแนะนำหารลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตอนต้นปี ดัชนี 1800 จุดเราก็ไม่ค่อยอยากแนะนำ แต่ตอนนี้เริ่มน่าสนใจ หลายกลุ่มเช่นการบริโภคหรือการท่องเที่ยว ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากสงครามการค้า ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีตลาดหุ้นจีน หรือญี่ปุ่นที่น่าสนใจ หากสนใจเรื่องการลงทุน โทรไปสอบถามได้ที่ 0-2686-9595 หรือ www.cimb-principal.co.th
แสดงเพิ่ม