ร่วมจัดทัพลงทุนกับ TMBAM ติดตามมุมมองการลงทุนในหุ้นอินเดีย ซึ่งปรับตัวลงอย่างรุนแรงเพราะสารพัดปัจจัยลบระยะสั้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา จนระดับราคาหุ้นถูกลงมาก ราคาที่ถูกลงจะเพิ่มโอกาสแสวงหาผลตอบแทนจากการเติบโตในระยะยาวได้อย่างไร ชมพร้อมกันเลย
เดือนเดียวได้เรื่อง หุ้นอินเดีย
หุ้นอินเดีย ถือเป็นดาวเด่นของเอเชียในปีนี้ เพราะค่อนข้างทนทานต่อความกังวลเรื่องสงครามการค้า เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจอินเดีย พึ่งพาความต้องการบริโภค/ลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก ทว่าในช่วงเดือนเศษๆที่ผ่านมา หุ้นอินเดียปรับตัวลงอย่างรุนแรง เพราะสารพัดปัจจัยลบระยะสั้น จนระดับราคาหุ้นถูกลงมาก เรามองว่าราคาที่ถูกลง เพิ่มโอกาสแสวงหาผลตอบแทน จากการเติบโตในระยะยาว
ปัจจัยลบโหมกระหน่ำหุ้นอินเดียช่วงเดือนที่ผ่านมา
- ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
- เงินรูปีอ่อนค่าสุดในเอเชีย
- สถาบันการเงินผิดนัดชำระหนี้
- กังวลเลือกตั้งทั่วไป 2019
- นักวิเคราะห์บางรายหั่นมุมมอง
ในบรรดาปัจจัยเหล่านี้ "ราคาน้ำมัน" น่าจะมีผลมากที่สุด และส่งผลต่อปัจจัยอื่นๆด้วย เพราะอินเดียพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบมาก ตลาดอินเดีย (ค่าเงิน, หุ้น, บอนด์) จึงมักตกเป็นเป้าหมายแรกๆในการ "ทุบ" ในแทบทุกครั้งที่น้ำมันราคาขึ้นแรงๆ ดึงดูดให้นักลงทุนสนใจ "ปัจจัยรองอื่นๆ" ยิ่งเข้ามาผสมโรงทุบหุ้นลงไปอีก ตัวอย่างเช่น ข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของสถาบันการเงิน IL&FS ซึ่งปีนี้เบี้ยวจ่ายไปแล้วกว่า 5 ครั้ง รวมกันไม่ถึง 5 พันล้านรูปี (แค่ราวๆ 2 พันล้านบาทเท่านั้นเอง) ล่าสุดรัฐบาลเข้ามาควบคุมกิจการ ตัดวงจรไม่ให้ปัญหาลุกลามเรียบร้อยแล้ว
เราเคยชี้ว่าราคาน้ำมัน (WTI) ไม่น่าเกิน $70 ไปได้ไกลนัก ("สำลักน้ำมัน" 9 พ.ค.) และหากราคาจะปรับตัวลง ก็ไม่น่าจะลงไปต่ำมากเช่นกัน ...สมมุติฐานที่เราใช้มานานแล้ว “floor” ของราคาน้ำมันคือ ข้อตกลงลดผลิตของ OPEC และพันธมิตร ส่วน “ceiling” คือ ผู้ผลิต shale oil ในสหรัฐฯ ตอบสนองราคาที่สูงขึ้นด้วยการผลิตมากขึ้น เป็นการเพิ่มอุปทาน ซึ่งจะดึงราคากลับลงมา... ดังนั้น ด้วยมุมมอง "สวนตลาด" (contrarian) เราจึงมักสนใจหุ้นอินเดียเป็นพิเศษเมื่อ WTI $70 โดยมองเป็นจุดที่น่าซื้อลงทุน บนสมมุติฐานว่า โอกาสที่ราคาน้ำมันจะกลับตัวลงจากระดับดังกล่าว มีมากกว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไปไกลๆ
หุ้นอินเดียพักฐานระยะสั้น ทำให้ระดับราคาถูกลงมาก (ปกติ P/E หุ้นอินเดียสูงกว่าตลาดเอเชียอื่นๆส่วนใหญ่ เพราะเศรษฐกิจโตเร็วแซงจีนมาได้พักใหญ่แล้ว) โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งร่วงหนักสุดจน P/E ต่ำกว่าหุ้นขนาดใหญ่แล้ว ทั้งๆที่ปกติ P/E หุ้นเล็กมักสูงกว่าเพราะโตเร็วกว่า
TMB India Active Equity (overweight) ปัจจัยลบเข้ามาเยอะแล้ว กดหุ้นอินเดียพักฐานระยะสั้น เปิดโอกาสเข้าซื้อลงทุนเพื่อรับการเติบโตระยะยาว กองทุนหลักบริหารโดย Goldman Sachs เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (ให้น้ำหนักมากกว่าดัชนี) ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ จากการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียในระยะยาว
แสดงเพิ่ม
