ส่องทิศทางหุ้นไอซีที-มีเดีย รับ ม.44 อุ้มผู้ประกอบการ
จากปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยหนุนกลุ่มหุ้นไอซีทีและมีเดีย คือการที่ คสช.ออกคำสั่ง ม.44 ขยายเวลาจ่ายค่าคลื่น 900 MHz ออกไป 10 ปี ตั้งแต่ปี 2563 และออกคำสั่ง ม.44 แก้ปัญหาการประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัล เปิดคืนใบอนุญาตและจ่ายชดเชย
ที่มาที่ไป …
ก่อนหน้านี้ เราได้ยินข่าวการประมูลคลื่นต่างๆ เช่น 4G ซึ่งการประมูลที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ทำให้บรรดาค่ายมือถือ ต้องระดมเงินในการจ่ายค่าประมูล ด้วยเม็ดเงินที่สูง ทำให้ต้องจัดสรรเงินลงทุน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นประเด็น คือ แนวคิดการประมูล 5G นั้น ทำให้ Operators ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร จึงเป็นที่มาของการออก คำสั่ง ม.44 ขยายเวลาจ่ายค่าคลื่น 900 MHz ออกไป 10 ปี (สามารถผ่อนจ่ายได้) ก็เป็นการช่วย Operators ให้มีภาระจ่ายที่น้อยลง เพื่อสามารถที่จะสามารถจัดสรรเงินลงทุนดูแลด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ในขณะที่ ด้าน ทีวีดิจิทัล ทาง กสทช ก็ใช้คำสั่ง ม.44 แก้ปัญหาการประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัล เปิดคืนใบอนุญาตและจ่ายชดเชย
ถือเป็นการเปิดทางออกสำหรับวงการธุรกิจทีวีดิจิทัล
แล้วหุ้นในกลุ่มสื่อสาร น่าลงทุนหรือเปล่า ? ลองมาเช็กมุมมองจากนักวิเคราะห์โบรกเกอร์ต่างๆ
ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ
มองว่าการที่ราคาหุ้นมีการเก็งกำไรขึ้นมามากก่อนหน้านี้ ทำให้ในช่วงสั้นทั้ง ADVANC, DTAC, และ TRUE อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นได้
แต่หากราคาหุ้นมีการปรับฐาน นักวิเคราะห์แนะนำให้เข้า “ทยอยสะสม” หุ้น ADVANC ซึ่งคาดว่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ 100% ของกำไรสุทธิ จากปัจจุบันจ่ายที่ 70% โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 228 บาท
ส่วนทีวีดิจิทัล ที่เปิดทางคืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล แต่ต้องแจ้งไปยังกสทช. ภายใน 30 วันนับตั้งแต่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ประเด็นนี้จะเป็นบวกกับ BEC ที่สุดเนื่องจากมีใบอนุญาตอยู่ 3 ใบ หากคืนใบที่ขาดทุนไปก็จะทำให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น แต่หากไม่คืน แต่ผู้ประกอบการรายอื่นมีการคืนใบอนุญาตก็จะทำให้ค่าโฆษณาต่อนาที หรืออัตราการซื้อโฆษณามีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากผู้เล่นที่หายไปบางส่วนได้
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
มองว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นผลดีกับทั้งหุ้นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มทีวีดิจิทัล
กลุ่มสื่อสาร ได้ประโยชน์จากการลดภาระการลงทุน ที่จ่ายช้าลง และมีโอกาสเข้าประมูลคลื่นใหม่ เพื่อพัฒนาเป็น 5G ทั้ง ADVANC และ TRUE เดิมต้องจ่ายค่าคลื่น 900 MHz งวดสุดท้ายงวดที่ 4 เป็นปี 2562 ก็จะทยอยชำระไปอีก 6 งวด จนปีสุดท้ายคือปี 2568 ส่วน DTAC เพิ่งประมูลล่าสุด งวดที่ 4 เป็นปี 2565 จึงจะทยอยชำระไปจนถึงปี 2570 ทั้งนี้ ADVANC และ TRUE ต้องจ่ายเงินงวดที่ 4 เป็น 59.6 และ 60.2 พันล้านบาท ตามลำดับ ส่วน DTAC งวดที่ 4 เป็น 30.0 พันล้านบาท
ADVANC นักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 216.00 บาท
DTAC แนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน 45.25 บาท แต่อยู่ในช่วงการปรับราคาพื้นฐานขึ้น เพราะควรจะมีมูลค่ามากขึ้น
กลุ่มทีวีดิจิทัล นักวิเคราะห์มองว่าผู้ประกอบการจะมีทางเลือกมากขึ้น คือจะคืนใบอนุญาต หรือรับเงินชดเชยหลังจาก กสทช.นำเงินประมูลคลื่น 5G ได้มาช่วยเหลือ ผู้ประกอบการจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น คือ ตัดสินใจคืนบางคลื่นที่เรตติ้งน้อยและขาดทุน หรือบางรายจะยุติธุรกิจไปเลย
ดีบีเอสฯ มองผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ BEC ซึ่งมีทีวี 3 ช่อง รองลงมา มี 2 ช่องคือ MCOT, GRAMMY และ TRUE ส่วน AMARIN, RS, WORK และ MONO มีรายละ 1 ช่อง
บล.กสิกรไทย
นักวิเคราะห์ระบุยังมีความเป็นได้ว่าการจัดสรรคลื่น 700 MHz จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 ซึ่งมีคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่แล้วในตอนนั้น และยังเล็งเห็นว่ากลุ่มโทรคมนาคมมีสิทธิ์ไม่เข้าร่วมการจัดสรรคลื่น 700 MHz หากเงื่อนไขของ กสทช. ไม่เป็นที่ยอมรับทางการเงิน
พร้อมยังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายปี 2562 สำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมทุกบริษัท รอการตัดสินใจของผู้ประกอบการ และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรคลื่น 700 MHz
นักวิเคราะห์กสิกรไทยจึงแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อ ADVANC, DTAC และ TRUE จากโอกาสที่หุ้นจะย่อตัวลงมา พร้อมระบุว่ายังมีมุมมองเป็น "บวก" ต่อกลุ่มโดยรวม และเลือก TRUE เป็นหุ้นเด่น
บล.ฟินันเซีย ไซรัส
กลุ่มสื่อสาร
นักวิเคราะห์มองว่าการใช้ ม.44 ขยายระยะเวลาชำระค่าคลื่น 900 MHz จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้หุ้นในกลุ่มมือถือ
TRUE จะมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นมากสุด 4% หรือราว 0.25 จากราคาเป้าหมาย 5.70 บาท
รองลงมาคือ DTAC มูลค่าเพิ่ม 2% หรือราว 1 บาทจากราคาเป้าหมาย 54 บาท
ADVANC คาดเพิ่มราว 3 บาทจากราคาเป้าหมายที่ 200 บาท
INTUCH เพิ่มราว 1 บาทจากราคาเป้าหมาย 61 บาท
อย่างไรก็ดีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวขึ้นอยู่กับเงื่อนไขคลื่น 700 MHZ ที่ Operator ต้องรับการจัดสรรจาก กสทช. ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียด และอาจเป็นภาระหากค่าคลื่นสูง
กลุ่มทีวีดิจิทัล
นักวิเคราะห์ระบุว่าการที่ทีวีดิจิทัลทั้ง 22 ช่องไม่ต้องจ่ายค่าคลื่นที่เหลือรวม 13,622 ล้านบาท และช่วยค่าเช่า MUX เป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท จนสิ้นสุดใบอนุญาต และยังเปิดโอกาสให้คืนใบอนุญาตได้ นั้น ประเมินว่า :
BEC จะได้ประโยชน์มากสุด คาดมูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นราว 2.50 บาทเป็น 8 บาท
WORK มูลค่าหุ้นจะเพิ่ม 2.50 บาทเป็น 28.50 บาท
RS มูลค่าหุ้นเพิ่ม 1.50 บาทเป็น 21.50 บาท
โดยนักวิเคราะห์ฟินันเซียฯ ระบุว่าชอบ RS มากกว่า เพราะมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจ MPC ซึ่งทำกำไรได้ดีกว่าทีวีดิจิทัล
แสดงเพิ่ม
