รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 912 จับทิศหุ้นไทยครึ่งปีหลัง | บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 912 จับทิศหุ้นไทยครึ่งปีหลัง | บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง

รับชม 65 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ย้ำว่า ท้ายที่สุด จุดสำคัญที่จะทำให้ตลาดขับเคลื่อนไปได้ คือ “กำไร” กลยุทธ์แนะนำ คือ ค้นหาบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไร ในช่วงครึ่งหลังของปี ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ปีนี้ ภาพของตลาดหุ้นเป็น sideway up ในครึ่งแรกของปี ตลาดปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากจากต้นปี อยู่ที่ 1550 จุด ตอนนี้ 1700 นิดๆ ปรับขึ้นมา ประมาณ 11% บทสนทนาเปิดของ คุณ วิจิตร อารยะพิศิษฐ ผอ.อาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองแนวโน้มไปข้างหน้า ในแง่ของพื้นฐาน ก็ต้องยอมรับว่า...ตึงตัว คำถาม ...คือ จะมีโอกาสปรับตัวบวกขึ้นได้ไหน ถ้ามีปัจจัยบวกสนับสนุน ? ทาง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เชื่อว่า ยังมีโอกาสให้ลุ้นกัน โดยปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนหุ้นไทยไปต่อ คงหนีไม่พ้นกระแส fund flow ที่เป็นผลต่อเนื่องจาก ทิศทางดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน ให้กระแส fund flow ไหนเข้าตลาดหุ้นไทย ส่วนดอกเบี้ยของไทยนั้น คาดว่า ธปท. น่าจะยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ดังนั้น กระแสเงินทุนจะไปพักในจุดที่ผลตอบแทนตอบโจทย์ ปัจจัยบวก เรื่องถัดมา คือ ความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น จากก่อนหน้านี้ในยุค คสช. หลายกองทุนของต่างชาติ ไม่สามารถลงทุนในไทย เนื่องจากกฎระเบียบนโยบายการลงทุน มาตอนนี้ ก็กลับมาลงทุนได้ เริ่มจะเห็นสถาบันจัดอันดับเครดิต เช่น ทริส เรทติ้ง ได้ปรับมุมมองของไทย ขึ้นมาเป็น positive ส่วนประเด็นที่หลายคนเป็นห่วง ทิศทางกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาด ที่แม้ว่าจะปรับลดลงเรื่อยๆ แต่หากได้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเข้ามาช่วยขับเคลื่อนในช่วงครึ่งหลังของปี และกำไรกลับขึ้นมา จะเป็นอัพไซด์ที่ช่วยดันตลาดหุ้นขึ้นต่อ โดยรวม เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีการปรับฐานบ้าง มี sector rotation ระหว่างกลุ่มบ้าง แต่เชื่อว่า ถ้าได้ปัจจัยบวกที่คาดไว้ ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นต่อ คำถามว่า หุ้นไทย แพงไหม? ยอมรับว่า ค่า P/E หุ้นไทย นั้นค่อนข้างตึง (ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของ P/E หุ้นไทย 10 ปี อยู่ที่ 14.4 เท่า) ตอนนี้ หุ้นไทยที่ 1720 จุด ภายใต้คาดการณ์กำไรตลาดที่ 7% คิดเป็น EPS 106 บาทต่อหุ้น ค่า P/E อยู่ที่ 16.2 เท่า ตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ เรียกว่า “ไม่ถูก” แต่แพงเกินไปไหม ถ้ามี fund flow ไหลเข้า โอกาสที่จะขึ้นไปเล่นบน P/E เพดานสูงก็เป็นไปได้ แนะนำลงทุนยังไง เมื่อ “ตลาดไม่ถูก” บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ย้ำว่า ท้ายที่สุด จุดสำคัญที่จะทำให้ตลาดขับเคลื่อนไปได้ คือ “กำไร” กลยุทธ์แนะนำ คือ ค้นหาบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไร ในช่วงครึ่งหลังของปี ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า กลุ่มอุตสาหกรรม ที่เข้าตา บล. .เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กลุ่ม “domestic play” ที่การเติบโตในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจในประเทศ มีโอกาสในการค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากนโยบายของภาครัฐ น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เจาะลึกลงไป ว่าผลจากนโยบายกระตุ้นการบริโภค และราคาสินค้าเกษตร น่าจะทำให้ “กลุ่มค้าปลีก”ได้ประโยชน์ ขณะที่ ความต่อเนื่องกับโครงการ eec น่าจะส่งผลบวกกับ “กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม” ส่วน “กลุ่มท่องเที่ยว” ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี เชื่อว่า ครึ่งหลังของปี ภาครัฐจะกระตุ้นผ่านมาตรการต่างๆมากขึ้น ปิดท้ายด้วย “กลุ่มโรงพยาบาล” ในไตรมาสที่2 จะเป็นช่วง low season กำไรของกลุ่มไม่ดีนัก แต่ก็น่าลุ้นสำหรับการฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส3 และ4 Selective buy ในหุ้นเด่นๆของแต่ละกลุ่ม CPALL ถือลงทุนแบบนอนหลับ กำไรโดดเด่นและในครึ่งหลังของปี มีประเด็นจับตา กับการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ เรียกว่า เป็นการต่อยอด s curve ของบริษัททีเดียว BJC ในครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัว หาจังหวะเข้าซื้อ หากราคาปรับตัวย่อลง หลังประกาศงบไตรมาส2 AMATA และ WHA นั้นยังน่าสนใจ หุ้นเด่นในกลุ่ม ท่องเที่ยว ยกให้ MINOR ที่เชื่อว่า ไตรมาส2 และ 3 จะปรับตัวดีขึ้นจากกลยุทธ์กระจายการลงทุนไปทั่วโลก ธุรกิจในยุโรป จะเข้ามาเป็นตัวพลิกฟื้น โรงพยาบาลขนาดกลาง และเล็ก กลับน่าสนใจที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล เลือก “CHG” เพราะเชื่อว่ากำไรไตรมาส2 จะเป็นจุดต่ำสุดหาจังหวะเข้าซื้อ หุ้นอะไรก็ตาม ที่กำไรครึ่งหลังของปี ดีกว่าครึ่งปีแรก เป็นจุดที่น่าสนใจ สิ้นปีคาดว่าดัชนีหุ้นไทย ที่ 1750 จุด จับตาดีๆ กับปัจจัยบวก หนุน fund flow หากตลาดย่อ เป็นจังหวะในการตั้งรับ เลือกหุ้นจากหลากหลายกลุ่ม
แสดงเพิ่ม