รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 913 ถามเรื่องการลงทุนกับสังคมไทยในมุม “กรณ์ จาติกวณิช”

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 EP 913 ถามเรื่องการลงทุนกับสังคมไทยในมุม “กรณ์ จาติกวณิช”

รับชม 12 ครั้ง|
ชอบ
ไม่ชอบ
แชร์
thunkhaochannel
636 วิดีโอ
“แม้ว่าไม่มีวิกฤติ แต่เศรษฐกิจไทยเรียกได้ว่า ท้าทายพอสมควร ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่ได้ดีนัก ขณะที่ภายในประเทศ นโยบายของรัฐบาล และการเบิกจ่ายงบประมาณอยู่ในช่วงเริ่มต้น น่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือน ในการพิจารณางบประมาณให้เรียบร้อย ตัวเลขการส่งออกที่ติดลบติดต่อกันมาหลายเดือน บวกกับกำลังซื้อของประชาชนที่ยังไม่ดีขึ้น เพราะราคาสินค้าเกษตรที่ยังรอการแก้ไขจากรัฐ...โดยภาพรวม ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง .. “ท้าทาย” เปิดบทสนทนาจาก กรณ์ จาติกวณิช ต่อเนื่องมาสู่ประเด็น ปัญหาที่ใหญ่มาก ในสายตาของ คุณ กรณ์ คือ ปัญหาการออมเงินของคนไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย และส่วนใหญ่มีเงินออมไม่มากนัก ประเด็นปัญหาส่วนหนึ่ง เป็นปัญหาระยะยาว เนื่องจากภาคส่วนยังไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงพอในการเตรียมสังคมไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ปัจจุบัน หนี้ครัวเรือนของคนไทยก็สูง เป็นประเด็นที่น่ากังวล คนไทย 35 ล้านคน ที่อยู่ในวัยทำงาน มีเพียง 12-13 ล้านคน เป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม นั่นหมายความว่า เพียง 12-13 ล้านคน ที่มีหลักประกันของชีวิตในวัยเกษียณ ที่เหลือถือว่าเป็นผู้มีอาชีพอิสระ ไม่มีอะไรรองรับชีวิตในวัยเกษียณ การแก้ปัญหาด้วยการหวังพึ่งลูกหลาน และรัฐบาลในประเด็นนี้ ก็ท้าทาย เพราะภาครัฐก็มีงบประมาณที่ขาดดุลอยู่ค่อนข้างมาก และในอนาคต คนไทยที่อยู่ในวัยทำงานลดลง ซึ่งส่งผลให้ฐานภาษีของรัฐบาลมีแนวโน้มลดลง ประเด็นสังคมสูงวัย กับปัญหาเงินออมไม่เพียงพอ ถือเป็นประเด็นที่ท้าทายสังคมไทยมากที่สุด ว่าอีก 15 ปีนับจากนี้ เราจะรักษามาตรฐานชีวิตทางเศรษฐกิจของคนไทยในวัยเกษียณได้อย่างไร? ...คำตอบที่ยั่งยืนกับประเด็นนี้ คือ “คนไทยทุกคนควรลงทุน” สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ คุณ กรณ์ หันมาสนใจเรื่อง Fintech ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะ Fintech เป็นเครื่องมือที่ทำให้ประชาชนทั่วไป เข้าถึงโอกาสในการลงทุนตลาดทุนได้ เนื่องจากเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนในการให้บริการถูกลง ให้บริการลูกค้า ประชาชนหมื่นคน ถึงล้านคน ต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นการช่วยเรื่องการเข้าถึงให้ดีขึ้น แต่สิ่งที่ยังขาด คือ “ความรู้” ที่น่าเสียดาย ยกตัวอย่าง เช่น อย่างปีนี้ภาพเศรษฐกิจที่ดูเหมือนไม่ค่อยดี แต่ตลาดหุ้นขึ้นมาเกือบ 20% ใครที่รู้เรื่องการลงทุน ได้เปรียบมหาศาลเทียบกับคนที่ไม่รู้ เพราะความไม่รู้ยังทำให้ไม่กล้า ถ้าไม่รู้ แนะนำว่า พึ่งพามืออาชีพในการช่วยบริหารจัดการ อย่างผม “แม้ว่าจะเริ่มต้นจากแวดวงตลาดทุน แต่ด้วยภาระหน้าที่ปัจจุบัน ก็ห่างไกลมาสัก 15 ปี ทุกวันนี้ผมก็พึ่งพามืออาชีพ ซึ่งก็ไม่ได้หวังที่จะได้ผลตอบแทนเกินกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดมากนัก ... มีความสบายใจที่มีมืออาชีพคอยดูแล” ตอบคำถาม เรื่องการกระจายการลงทุน หากมีเงินเก็บสัก 500,000 บาท ไม่ได้ติดเงื่อนไขทางการเมือง คุณ กรณ์จะเลือกลงทุนอะไร ? ผมยอมรับว่าจะให้น้ำหนักการลงทุนไปที่ตลาดทุนมากหน่อย เพราะมีความคุ้นเคย และเติบโตมา เลยมีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดทุน โดยกระจายไม่หยุดอยู่เพียงการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่กระจายไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง เหนือสิ่งอื่นใด การลงทุนที่สำคัญที่สุดของทุนคน คือ บ้านที่อยู่อาศัย ที่ยังคงเป็นความมั่นคงอันดับแรกของตัวเองและครอบครัว โดยรัฐบาลก็มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุน ขอให้ใช้โอกาสเมื่อมี กลับมาที่เรื่อง ภาครัฐ กับการสนับสนุนการออม นั้น ได้มี กฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีอาชีพอิสระ (ไม่ได้เป็นสมาชิกประกันสังคม) มีโอกาสออมโดยรัฐบาลเข้ามาช่วยเพื่อสมทบเงินออม สิทธิในการออมเงินทุกเดือน และรัฐบาลจะสมทบเงินออมให้ ฟรี!!! ด้วยเงื่อนไขว่า ส่วนที่รัฐบาลสมทบให้ถอนออกมาไม่ได้ จนกว่าจะถึงวัยเกษียณนี้เป็นตัวอย่าง ในอนาคตอาจจะมีนวัตกรรมอื่นๆ เช่น ในสิงคโปร์ประชากรส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง สามารถบังคับหักเงินออม ออกจากเงินเดือน แต่คนไทยส่วนใหญ่ มีอาชีพอิสระ เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า จึงไม่มีกลไกไปหักรายได้ ถ้าเราสามารถหักบางส่วนจากการซื้อของ เข้ากองทุนเลี้ยงชีพของตัวเอง อาจจะเป็นโมเดลที่เหมาะสมกับสังคมไทย.... เหมือนทางนี้ จะเป็นทางออกที่ช่วยให้คนไทยมีเงินออมกันทุกคน...แต่เรื่องนี้ เป็นประเด็นที่ท้าทายทางการเมือง คุณ กรณ์ ให้ข้อคิดทิ้งท้ายว่า การออม เป็น “วินัย” เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าเราบริหารจัดการเรื่อง รายรับ รายจ่าย หาช่องทางลงทุนอย่างสม่ำเสมอ คนไทยจะได้แข็งแรงทั้ง สุขภาพกาย และสุขภาพเงินในกระเป๋า ------------ อ่านข่าว คลิก ------------ ทันข่าว ก่อนใคร คลิก https://www.thunkhaochannel.com ติดตามรายการ รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.15-10.30 น.
แสดงเพิ่ม