เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี ตลอดทั้งปีนี้ แม้ว่าตลาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนบวก แต่หลายคนอาจจะไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะเป็นปีที่จังหวะการเข้าลงทุนที่ไม่ง่าย
“ การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอจังหวะ “ เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน
ซึ่งในมุมมองของ คุณ คมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส รูปแบบการลงทุนทางเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ คือ กองทุนต่างประเทศที่จะไปลงทุนนั้นเป็นกองทุนหุ้นที่ใช้กลยุทธ์การบริหารแบบ Hedge Fund ที่นักลงทุนกลุ่ม Private Banking รู้จักเป็นอย่างดี
“กองทุน Asset Plus Legacy Fund” น่าจะเป็นคำตอบ
กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป
จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูง
ตอบโจทย์นักลงทุนที่เข้าใจการลงทุนค่อนข้างดี และมีสินทรัพย์ลงทุนสูง
รูปแบบการลงทุน Hedge Fund แม้จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนไทย
แต่ในต่างประเทศ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นักลงทุนสถาบัน ให้ความสำคัญกับการลงทุนประเภทนี้มานานแล้ว มักจะเป็นทางเลือกในพอร์ตการลงทุนสัดส่วน 10-20%
กองทุนนี้ รูปแบบ Hedge Fund ที่ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ และ AI ช่วยในการบริหาร
กองทุนหลัก (feeder fund) ที่ทาง บลจ. แอสเซท พลัส นำเงินไปลงทุนนั้น ชื่อ “Renaissance Technologies” ถือว่าเป็นกองทุนในตำนานของโลก บริหารโดย Jim Simon World’s smartest billionaire ด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปี ผลตอบแทนในอดีต เฉลี่ย สูงถึง 39% ต่อปี
ช่วงที่เกิดสงครามการค้า ในขณะที่ S&P500 ผลตอบแทน ติดลบ 4% กองทุนที่บริหารโดย “Renaissance Technologies”สามารถสร้างผลตอบแทน บวกกว่า 8% เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า “ในวิกฤติ มีโอกาสการลงทุนเสมอ”
สไตล์ลงทุนกองทุนนี้ เรียกว่า long-short equity เน้นลงทุนในหุ้นที่เทรดในตลาดสหรัฐ โดยสามารถทำกำไรทั้งขาขึ้น และขาลง ด้วยการเฟ้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้น ทำ long position /ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มขาลง ใช้กลยุทธ์ short position
“หาหุ้นให้ถูก พร้อมใช้จังหวะเทรดด้วยเครื่องมือที่รวดเร็ว” คือจุดเด่นที่แตกต่างของกองทุนนี้
ถือเป็นโพรดักต์ที่จะมาเติมเต็มพอร์ตให้กับนักลงทุน บลจ. แอสเซท พลัส ไปเฟ้นหามาให้
แสดงเพิ่ม
