นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากภาวะภัยแล้งพบว่า ภัยแล้งที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 57 จนถึงปัจจุบันทำให้มูลค่าเงินหายไปจากระบบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นสูงถึง 68,144 ล้านบาท กระทบต่อ GDP ร้อยละ 0.52 แบ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากภัยแล้งช่วงที่ 1 ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 57 เสียหาย 32,512 ล้านบาท กระทบต่อ GDP ร้อยละ 0.25 และ ภัยแล้งปี 58 (รอบที่ 2) เสียหาย 35,632 ล้านบาท กระทบต่อ GDP ร้อยละ 0.27
ทั้งนี้ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากพื้นที่ปลูกข้าว ซึ่งปัญหาภัยแล้งทำให้พื้นที่ปลูกข้าวลดลง ปริมาณผลผลิตลดลง และคุณภาพของผลผลิตก็ลดลง ทำให้รายรับของเกษตรกรลดลง โดยในปี 2557 ราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้าความชื้น ร้อยละ 15 อยู่ที่ 7,753 บาทต่อตัน ส่วนราคาในปี 58 ลดลงมาอยู่ที่ 7,697 บาทต่อตัน ส่งผลให้ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงินเพื่อชำระหนี้เก่า กู้ยืมเงินเพื่อลงทุนเพาะปลูกรอบใหม่ และกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังกระทบต่อการศึกษาของบุตรหลาน พบว่า มีการย้ายโรงเรียนเพื่อลดค่าใช้จ่าย ค้างค่าเล่าเรียน บุตรหลานต้องหางานพิเศษทำ บางคนหยุดเรียน และบางรายต้องหาแหล่งเงินกู้เพื่อการศึกษา
แสดงเพิ่ม