อ.ชนะชัย บุญเพิ่ม อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยี มรภ.อุดรธานี อธิบายว่า บั้งไฟพญานาคนั้น เมื่อก่อนนี้เรียกว่าบั้งไฟผี ซึ่งไม่ได้ขึ้นเฉพาะช่วงออกพรรษาและพื้นที่บริเวณแม่น้ำโขงเท่านั้น ซึ่งมีพยานเห็นชัดเจน และเคยเห็นด้วยตาตนเองด้วยว่าเป็นลูกไฟสีส้มขึ้นมาจากน้ำ ตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ เท่านั้น และเห็นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบัน
ผศ.ประทัย พิริยะสุรวงค์ อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ มรภ.เชียงราย อธิบายว่า เมื่อก่อนนั้นผู้คนใช้กล้องฟิล์มทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดี ทำให้ไม่มีภาพมายืนยันบั้งไฟพญานาคที่ชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็ยอมรับว่าปัจจุบันนี้มีคนพยายามทำของปลอมขึ้นมามาก โดยมีวิธีดู คือ บั้งไฟพญานาคของจริงจะสูงจากน้ำไม่เกิน 50 เมตร
รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า ถ้าอธิบายทางวิทยาศาสตร์บั้งไฟพญานาคเกิดตามธรรมชาตินั้นเป็นไปได้ยากมาก โดยส่วนตัวมองว่าความมืดสามารถหลอกลวงสายตาเราได้ ดังนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าบั้งไฟพญานาคทุกครั้งที่เห็นคือมนุษย์ทำ โดยจะสังเกตว่าไม่เคยมีภาพหรือคลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่าบั้งไฟพญานาคนั้นขึ้นมาจากน้ำจริง ๆ
นายสมภพ ขำสวัสด์ แอดมินเพจ "พิสูจน์บั้งไฟพญานาค" เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติมาแต่เด็ก จนกระทั่งปี 2545 เห็นภาพคนทำบั้งไฟจึงเริ่มรู้สึกสงสัย ซึ่งเมื่อมองดูดี ๆ จะสังเกตเห็นได้ง่ายมากว่าบั้งไฟนั้นขึ้นมาจากทางฝั่งลาว ไม่ได้ขึ้นมาจากน้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ยังยืนยันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็น
แสดงเพิ่ม