วันที่ 30 ต.ค. ที่สนามหลวง นักร้องลูกทุ่งหนุ่ม ก้อง ห้วยไร่ ร่วมกับแฟนคลับนำอาหาร น้ำดื่ม มาแจกประชาชนที่มารอเข้าถวายสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ
โดย ก้อง เผยว่า “แฟนคลับรวมกลุ่มกันตั้งใจมาแจกอาหารและน้ำดื่ม และชวนผมมาร่วมด้วย ซึ่งหลังจากทราบข่าวพระองค์สวรรคตผมก็ยกเลิกงานทั้งหมด ตามกำหนดการที่ทางราชการประกาศไว้ 30 วัน แต่ผมขอไม่รับงานไปเรื่อยๆ ตามความเหมาะสม ผมเลยกลับบ้านไปช่วยครอบครัวเกี่ยวข้าว ทำสวน ก่อนหน้าวันที่พระองค์สวรรคต ผมไปสวดมนต์ขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร พอกลับมาก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ แต่ผมไม่เชื่อ จนมีแถลงการณ์ ความรู้สึกตอนนั้นเคว้งคว้างว่าวันนี้มาถึงจนได้ เป็นวันที่เรากลัวที่สุดว่าท่านจะไม่อยู่กับเราแล้ว ผมทำอะไรไม่ถูก บรรยากาศมันอึมครึม ท้องฟ้าวันนั้นไม่โปร่งใส โทรไปหาพ่อกับแม่ แม่ผมร้องไห้ เพราะเรามีบ้านอยู่ เพราะพระองค์ ผมเป็นผู้ชายก็พยายามบอกแม่ว่าท่านไปสวรรค์แล้ว ถ้าคิดถึงท่านก็ให้คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทรงสร้างให้ประชาชนชาวไทย พระองค์ไม่ได้ไปไหนจากใจคนไทยเลย วันนั้นผมอยู่กรุงเทพฯไม่ได้เลยตัดสินใจกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ไปทำบุญเป็นพระราชกุศลตามวัดต่างๆ ทางภาคอีสานที่พระองค์ท่านไปสร้างไว้”
ความทรงจำที่มีต่อพระองค์
ก้อง กล่าวว่า “ตอนเด็กๆ ผมอาศัยเถียงนา ไม่มีบ้าน จะมีปฏิทินรูปพระองค์ แต่ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นรูปใคร พ่อกับแม่บอกว่า เป็นรูปพระเจ้าอยู่หัว ผมเลยถามว่าทำไมเอารูปท่านมาติด พ่อแม่บอกว่าท่านเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ ภูติผีปีศาจกลัว ตอนแรกผมไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ท่านกันผีให้เราได้ เวลาไปไหนพกเหรียญบาทไว้ก็อุ่นใจ พอโตมาถึงได้รู้ว่าสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คืออะไร ได้รู้ว่าท่านทำอะไรบ้าง อย่างที่รู้กันว่าบ้านผมที่อีสานแห้งแล้ง ท่านได้มาสร้างเขื่อนห้วยนกเค้า บ้านหนองฮาง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และแม่ผมเคยทำงานที่ศูนย์ศิลปาชีพกับพระองค์ท่าน 17 ปี เกี่ยวกับการจักสาน
แม่เล่าให้ฟังว่าได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์ซึ่งมาพร้อมกับสมเด็จย่าและพระราชินี แต่ตอนนั้นผมยังไม่เกิด ผมเองตอนเด็กๆ อายุ 7-8 ขวบ เคยรับเสด็จตอนท่านเสด็จไปบ้าน กุดนาขาม ผู้ใหญ่บอกห้ามเงยหน้ามองพระพักต์ แต่ตามประสาเด็กผมก็อยากเห็น ตอนก้มไหว้ก็เอียงหน้ามอง แต่ทหารมาจับหัวไว้ ผมเลยไม่เคยเห็นพระพักต์พระองค์เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนนั้นถือว่าเป็นการได้ใกล้ชิดพระองค์ที่สุดแล้ว แม่เคยเล่าให้ฟังว่า พระราชินีตรัสชมและให้กำลังใจตลอด เนื่องจากที่เราเป็นคนบ้านไกลไม่มีสื่อ ชาวบ้านบางคนไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใครเวลาท่านเสด็จมา เพราะเวลาท่านมาท่านไม่ได้แสดงความยิ่งใหญ่ มาเหมือนคนธรรมดา ที่ผมประทับใจอย่างหนึ่งคือ แถวบ้านผมมีหมาจรจัดเยอะ แต่เวลาพระองค์เสด็จมา ท่านจะเหมาไก่ทอดให้หมาแถวนั้น ไม่ใช่แค่พสกนิกรเท่านั้นที่ปลื้มปีติเวลาพระองค์เสด็จ แต่ทุกๆชีวิตก็มีความสุขด้วย สิ่งที่ชาวบ้านได้คือความอุดมสมบูรณ์ เมื่อก่อนบ้านผมเป็นถนนลูกรัง หลังจากพระองค์เสด็จมา บ้านผมกลายเป็นถนนลาดยาง การคมนาคมสะดวกขึ้น แต่ก่อนน้ำแล้ง ก็มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ”
เราน้อมนำพระราชดำรัสใดมาใช้บ้าง
นักร้องหนุ่ม กล่าวว่า “ความพอเพียง มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่เคยถือพระองค์สูงส่ง พระองค์ปฏิบัติเหมือนคนธรรมดาให้รู้สึกว่าเราเท่าเทียมกัน เราเป็นศิลปินมีชื่อเสียงมีคนเข้ามารู้จัก รักเรามากมาย เราก็ต้องทำตัวให้ติดดิน ให้เหมือนที่ท่านทำ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ให้รู้สึกว่าแผ่นดินนี้ไม่มีใครเหนือใคร สิ่งที่ต้องการ คือ ความเสมอภาค ความรักสามัคคีกัน ผมก็นำเรื่องนี้มาปรับใช้ในชีวิตผม”
ก้อง กล่าวต่อว่า “เมื่อก่อนบ้านผมไม่มีน้ำปลูกอะไรไม่ขึ้น พอพระองค์ทรงสร้างเขื่อนก็ทำให้ประชาชนมีอาชีพ ปลูกข้าวปลูกแตง ท่านมอบมรดกไว้ให้เราแล้ว นำเอาความพอเพียงของพ่อมาใช้ ตอนนี้ผมเปลี่ยนที่นาของผมให้เป็นสวนกล้วย ข้าวเราก็มีไม่ต้องไปซื้อเขา พืชผักสวนครัวเราก็มีหมดแล้วไม่ต้องไปจ่ายตลาด คนอาจจะมองว่าพอมีเงินเราจะไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ทำรีสอร์ทไหม แต่สำหรับผมซื้อที่ดินทำเกษตรแบบยั่งยืน”
อยากจะบอกอะไรพระองค์ท่าน
“ขอบคุณพระองค์ที่มอบมรดกไว้ให้เยอะมาก ในทุกด้าน ทั้งชลประทาน พลิกฟื้นแผ่นดินที่แห้งแล้งให้อุดมสมบูรณ์ ตอนนี้คนไทยร้องไห้เสียใจกับการจากไปของพระองค์ เราร้องไห้เสียใจได้แต่อย่าลืมว่าไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกตัวเองร้องห่มร้องไห้ ไม่ทำอะไรเลย อยากให้กำลังใจพี่น้องชาวไทยให้ลุกขึ้นมาตามรอยพระราชดำริ ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเยอะๆ ไปขุดสระ ซื้อที่ ปลูกข้าว แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและไม่เดือดร้อนใคร อย่างพอเพียง ท่านสร้างทุกอย่างไว้หมดแล้ว เหลือแค่เราต้องสานต่อเพื่อลูกหลานต่อไป”
แสดงเพิ่ม
